18 กันยายน 2551





Loading...

This service isn't available right now. Please try again later.
Manat Junrapoo

ชีวิต คนเดินทาง
ความรู้ทั่วไป ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม
ต้อลม สาเหตุของต้อเนื้อ
ต้อลม สาเหตุของต้อเนื้อ
Spersallerg® เป็นยาหยอดตาที่มีส่วนประกอบของยาแก้แพ้ (antihistamine) คือ antazoline 0.05% และยาหดหลอดเลือด (vasoconstric
See all new items

View space
Send a message
Invite as friend
View friends list
View profile
Receive contact updates
Manat Junrapoo5/30/2008 12:54 PM
(http://junrapoo.spaces.live.com/)

วันที่ห้าของการเดินทาง 17 เม.ย. 51 นาริตะ - กรุงเทพฯ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
(ตรวจสอบสัมภาระให้เรียบร้อย เพื่อเตรียมเดินทางไปสนามบิน)
เดินทางสู่ “นาริตะซัน” วัดที่ดังที่สุดในแถบชิบะ ... กราบนมัสการขอพรพระ พร้อมเลือกชมและซื้อเครื่องรางของขลังและสินค้าพื้นเมือง ... จากนั้น เดินทางสู่ “เอออน พลาซ่า” ศูนย์รวมสินค้าชั้นนำต่างๆ มากมาย อาทิ นาฬิกา, กล้อง, กระเป๋า, รองเท้า, เสื้อผ้า เป็นต้น รวมทั้ง “ร้าน 100 เยน” สินค้าคุณภาพดีราคาแสนถูก.... อิสระให้ท่านได้เพลินเพลินกับการ “เลือกชมและซื้อ” สินค้าถูกใจฝากคนทางบ้านตามอัธยาศัย อิสระให้ เลือกช้อปปิ้งต่ออย่างจุใจ...สมควรแก่เวลา เดินทางสู่ “สนามบินนาริตะ”
18.45 น. เดินทางจาก นาริตะ 23.50 น. ถึง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม



Manat Junrapoo5/30/2008 12:53 PM
(http://junrapoo.spaces.live.com/)

วันที่ 16 เม.ย. 51 โตเกียว - วัดอาซะกุซ่า – โตเกียวดิสนีย์แลนด์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นเดินทางสู่ “วัดอาซะกุซ่าคันนอน”วัดเก่าแก่ที่สุดในโตเกียว....กราบนมัสการขอพรจาก “องค์เจ้าแม่กวนอิม” ที่เป็นทองสัมฤทธิ์ มีขนาดเล็กเพียง 5.5 เซนติเมตร พร้อมถ่ายภาพความประทับใจกับ“โคมไฟขนาดยักษ์” ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก สูง 4.5 เมตร เลือก “ชมและเช่า” เครื่องรางของขลังอันศักดิ์สิทธิ์ของวัดแห่งนี้…. หรือจะเลือก เดินที่ “ถนนนาคามิเซะ” จะได้ “ชมและซื้อ” สินค้าของฝากของที่ระลึกที่เป็นสินค้าพื้นเมือง “Made In Japan” แท้ๆ รวมทั้งข้าวของเครื่องใช้คุณภาพดี มากมาย อาทิ ร่ม, หมวก, รองเท้า, กระเป๋า, เสื้อผ้า เป็นต้น หรือจะเลือกชิม “ขนมอร่อย” สไตล์ญี่ปุ่นตามอัธยาศัย …แล้วเดินทางสู่ “โตเกียวดิสนีย์แลนด์” ดินแดนหรรษาสำหรับคนทุกเพศทุกวัยทุ่มทุนสร้างกว่า 600 ล้านบาทโดยการถมทะเล.... สัมผัสกับความอลังการจากจินตนาการอันหลากหลาย....ตื่นตากับดินแดนตะวันตก “Western Land” ตื่นเต้นกับการล่องเรือผจญภัยผ่านเหล่า “โจรสลัด” ที่แสนน่ากลัวใน “Pirates of the Caribbean”...สนุกสนานกับการนั่งเรือบุกป่าที่ “Jungle Cruise” จะได้พบกับเหล่าสัตว์ป่านานาชนิด.... แล้วพักผ่อนอิริยาบถด้วยการนั่ง “รถไฟ” ชมความหลากหลายภายในดีสนีย์แลนด์ ....ต่อด้วยการสนุกเร้าใจที่ “Big Thunder Mountain” นั่งรถไฟขนถ่านตะลุยความมันส์ในเหมืองแร่โบราณ
เที่ยง
ตื่นเต้นสะพรึงกลัวที่ “ปราสาทผีสิง” (Hunted Mansion) ที่เป็นที่มาของภาพยนตร์แนวสยองขวัญเรื่องดังแห่งปี…. แล้วสนุกสนานต่อกับ “Splash Mountain” ที่ท้าทายความกล้า, แล้วสนุกกับเครื่องเล่นมากมายที่ เข้าไปท้าทายกัน...ชม “ขบวนพาเหรด” จากเหล่าการ์ตูนดังมากมาย อาทิ มิกกี้เม้าส์, มินนี่เม้าส์, โดนัลดักส์ เป็นต้น...อิสระที่ได้สนุกสนานเพลิดเพลินกับเครื่องเล่นอีกมากมายค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร พักที่ HILTON NARITA HOTEL



Manat Junrapoo5/30/2008 12:53 PM
(http://junrapoo.spaces.live.com/)

วันที่ 15 เม.ย. 51 คาวาคูจิโกะ – มินาโต มิไร – พิพิธภัณฑ์ราเมน – ชินจูกุ
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
แล้วเดินทาง สู่เมือง Yokohama (โยโกะฮามะ) เป็นเมืองท่าที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ชมสวนหย่อม "โอกุระยามะโคเอ็ง" เป็นเนินเขาแบบไม่สูงมาก ในช่วงฤดูใบไม้ผลิมีดอกไม้นานาพันธ์ผลิบาน แข่งกันอวดความงาน เมื่อเดินชมสวนกันอย่างจุใจแล้ว เราก็มุ่งหน้าไปย่าน “มินาโตะมิไร” แปลความหมายตรงตัวได้ว่า มินาโตะ=ท่า(ท่าเรือ) , มิไร=อนาคต ท่าเรือแห่งอนาคตถ้าจะแปลอีกนัยหนึ่งอาจหมายถึงอนาคตและพวกเรา ศูนย์ความเจริญแห่งใหม่ที่ตั้งอยู่บริเวณ “อ่าวโยโกฮาม่า” ที่เพิ่งจะเริ่มทำโปรเจ็คนี้เมื่อ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ... โดยมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาบริเวณนี้เป็นศูนย์กลางความเจริญ - ศูนย์นันทนาการครบครันทันสมัย และแหล่งที่อยู่อาศัยต่อจากมหานครโตเกียว ... ตื่นตากับความอลังการของ “แลนด์มาร์ค ทาวเวอร์” ตึกที่มีความสูงที่สุดในญี่ปุ่น, หรือจะเลือกเพลิดเพลินกับการ “นั่งกินลมชมวิว” บน “ชิงช้าสวรรค์ยักษ์” ที่มีชื่อเรียกว่า “Cosmo Clock 21” ... หรือจะสนุกสนานกับการ “เลือกชมและซื้อ” สินค้ามากมายจากร้านค้าภายใน “ควีน สแควร์” แหล่งช้อปปิ้งชั้นนำของย่าน ... และไม่ลืมบันทึกภาพความงามเป็นที่ระลึก (ไม่รวมค่าเข้า / เครื่องเล่นต่างๆ) ...
...เดินตามรอย “ทีวีแชมป์เปี้ยน” (T.V. Champion) รายการยอดฮิตติดอันดับที่ “พิพิธภัณฑ์ราเม็ง” ศูนย์รวมร้านราเม็งที่ขึ้นชื่อจากทั่วทุกมุมของประเทศญี่ปุ่น ลิ้มรสราเม็ง อย่างอร่อย

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ พิพิธภัณฑ์ราเม็ง
จากนั้น เดินทางสู่ “ชินจูกุ” หรือ “ศูนย์กลางที่สองแห่งนคร” ย่านความเจริญอันดับหนึ่งของนครโตเกียวในปัจจุบัน.... เลือก “ชมและซื้อ” สินค้ามากมาย อาทิเช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า, กล้องถ่ายรูป, วอร์คแมน, MP-3, เกมส์, นาฬิกา, เครื่องสำอาง, เสื้อผ้า หรือจะเลือก สนุกสนานกับ “เกมส์เซ็นเตอร์” ที่มีให้ได้เลือกเล่นมากมายตามอัธยาศัย...
จนได้เวลาอันสมควรเดินทางสู่โรงแรมที่พัก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพักที่ LE MERIDIAN GRAND PACIFIC TOKYO



Manat Junrapoo5/30/2008 12:52 PM
(http://junrapoo.spaces.live.com/)
วันที่ 13 เม.ย. 51 กรุงเทพฯ – นาริตะ (ญี่ปุ่น)
สนามบินสุวรรณภูมิ อาคาร ออกเดินทางจาก กรุงเทพฯ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง …. เวลาท้องถิ่นต่างจากเวลาประเทศไทย 2 ชั่วโมง)

วันที่ 14 เม.ย. 51 นาริตะ – วนอุทยานฮาโกเน่ – ล่องเรือทะเลสาบอาชิ - สวนสันติภาพ – ภูเขาไฟฟูจิ - คาวากูจิโกะ
06.15 น. ถึงสนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น ดินแดนอาทิตย์อุทัย…. ผ่านพิธีการศุลกากรและตรวจคนเข้าเมือง พร้อมตรวจเช็คสัมภาระ เดินทางสู่ “วนอุทยานแห่งชาติฮาโกเน่” สถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากสุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น...แล้วเปลี่ยนอิริยาบถเป็นการ “ล่องเรือโจรสลัด” สัมผัสความงามราวกับภาพวาดของทิวทัศน์ของ “ทะเลสาบอาชิ”

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
ชมความงามของพันธุ์ไม้นานาพันธุ์มากมายที่ “สวนสันติภาพ” หรือ “เฮวะโคเอน” อนุสรณ์สถานสงครามเกาหลี โดยภายในสวนแห่งนี้มีรูปปั้นสิงโต 7 ตัว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเหล่าประเทศที่เข้าร่วมในสงครามในครั้งนั้นด้วย.... สิงโต 1 ใน 7 ตัวนั้นเป็นสิงโตที่เป็นตัวแทนของประเทศไทย ... อิสระที่ได้ชื่นชมความงามพร้อมบันทึกภาพความประทับใจ… จากนั้น เดินทางสู่ “ภูเขาไฟฟูจิ” สัญลักษณ์ของแดนอาทิตย์อุทัยแห่งนี้ และยังเป็นภูเขาไฟที่มีลักษณะที่งดงามที่สุดในโลกแห่งหนึ่งที่มีความสูงประมาณ 3,776 เมตร ซึ่งมีหิมะปกคลุมบนยอดเขาตลอดทั้งปี.... ขึ้นไปสัมผัสบรรยากาศและกลิ่นอายอย่างใกล้ชิดที่ “สถานีที่ 5” บนระดับความสูงที่ 2,500 เมตร (ในกรณีที่อากาศเอื้ออำนวย) อิสระกับการ บันทึกภาพความงามภูเขาไฟแห่งนี้พร้อมทั้งเลือกชมและซื้อ “สินค้าพื้นและขนมอร่อย” มากมาย…สมควรแก่เวลา เดินทางเข้าสู่ “คาวาคูจิโกะ” 1 ใน 5 ทะเลสาบที่ล้อมรอบภูเขาไฟฟูจิ อันเกิดจากการก่อตัวของลาวาจากภูเขาไฟฟูจิ ทำให้ปิดทางออกของน้ำในทะเลสาบที่พักสไตล์ญี่ปุ่นแท้
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม ... ด้วยบุฟเฟ่ต์ขาปูยักษ์ อิ่มอร่อยกับขาปู ยักษ์ในแบบไม่อั้นจนจุใจ ในบรรยากาศแบบญี่ปุ่นด้วยชุดยูกาตะ พักที่ KASUGAI VIEW HOTEL

17 กันยายน 2551

ข้อปฏิบัติ การทำงานระบบ Safety

ข้อปฏิบัติ การทำงานระบบ Safety ทั่วไปของงานหลังคาและการระมัดระวังความเสียหาย

1. การแต่งกาย
ชุดที่สวมใส่ขึ้นทำงานบนหลังคา ต้องเป็นชุดที่กระชับไม่มีการสะพายกระเป๋าหรือสิ่งอื่นใดขึ้นบนหลังคา จะต้องมีการสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งพร้อมสายรัดคาง หากขึ้นทำงานในเวลากลางวันควรจะมีการใส่แว่นตากันแดดทุกครั้ง
รองเท้าควรจะเป็นรองเท้ายางพื้นเรียบหุ้มส้น
สำหรับช่างติดตั้งต้องมีการสวมถุงมือผ้ากันแผ่นบาดด้วยทุกครั้ง
* สำหรับการทำงานในหน่วยงานที่ยังติดตั้งไม่แล้วเสร็จจะต้องมีการสวม Safety Belt ด้วยทุกครั้ง *

2. การปฏิบัติทั่วไป
สุขภาพของผู้ปฏิบัติงานหน้างาน จะต้องไม่เป็นโรคความดันต่ำ (หรือหน้ามืดง่าย)
การขึ้นทำงานบนหลังคาจะต้องไม่ขึ้นเพียงลำพัง
หากไม่มีประสบการณ์ ให้ขึ้นในเวลากลางวันเท่านั้น
(และการขออนุญาตผู้ที่รับผิดชอบหน่วยงานนั้น ๆ ก่อน)
การเดินบนแผ่นหลังคา จะต้องเดินบนแนวของแปเหล็กเท่านั้นและต้องเหยียบบริเวณท้องลอนหลังคาเท่านั้น ห้ามเหยียบบริเวณระหว่างแปหรือสันลอนเป็นอันขาด
การเดินบนแผ่นหลังคา ห้ามเหยียบบนแผ่นใสหรือครอบ (Facing Sheet เป็นอันขาด)

3. การป้องกันอุบัติเหตุ
หากเป็นงานที่อยู่ในระหว่างงานติดตั้ง จะต้องขึ้น Safety Net ครอบคลุมพื้นที่การทำงานเพื่อป้องกันมิให้วัสดุใด ๆ ตกหล่นไปข้างล่างรวมถึงผู้คนที่ทำงานด้วย
การเก็บสิ่งของบนหลังคาจะต้องทำการมัดให้แน่น พร้อมถ่วงน้ำหนักวัสดุนั้น ๆ เสมอในระหว่างและหลังการทำงาน

4. วัสดุที่เข้ากันได้
ควรใช้วัสดุที่ทำจากเหล็กเคลือบสังกะสีหรือทาสีป้องกันสนิม นอกจากนี้วัสดุที่ทำจากตะกั่วและทองแดง ห้ามนำมาใช้ร่วมกับแผ่นหลังคา และผนังเหล็กเคลือบ ZINCALUME เพราะจะทำให้เกิดการผุกร่อน และเป็นสนิมบนตัวแผ่น

5. การทำความสะอาด
หลังเสร็จงานติดตั้งในทุกๆวัน ควรกวาดเศษโลหะ, คอนกรีต และเศษวัสดุต่างๆ ที่เกิดจากการตัดเจาะ จากการทำงานอื่นๆ ออกไปจากบริเวณหลังคาโดยทันที

6. การบำรุงรักษา
การล้างคราบฝุ่นบนหลังคา ควรล้างด้วยน้ำสะอาด หรือน้ำยาทำความสะอาดชนิดอ่อน
7 การระวังความเสียหาย ระหว่างการขึ้นไปทำงานบนหลังคา หลังจากมุงหลังคาแล้วเสร็จ
- แต่งการกระชับ
- เวลาเดินให้เดินบนร่อง ห้ามเดินสัน Metal sheet
- กรณีมีแผ่นหลังคาใส ห้ามเหยียบหลังคาใสทุกกรณี
- All Accessary Metalsheet ได้แก่ ครอบหลังคา ครอบมุม ห้ามเหยียบทุกกรณี
- เดินด้วยความระมัดระวัง

Marblex floor

METHOD STATEMENT OF MARBLEX

วิธีการติดตั้งกระเบื้องหินขัดสำเร็จรูป MARBLEX
ขั้นตอนการเตรียมพื้นที่
1. เตียมผังและระดับสูงต่ำด้วยด้ายเบอร์ 8
2. เตรียมปูนซีเมนต์ดำ 1 ส่วน ทราย 3 ส่วน ผสมด้วยน้ำอย่าให้เหลวเป็นตัวเชื่อม
3. วางแผ่น MARBLEX บนตัวเชื่อมทุกแผ่นให้ได้ระดับเสมอกัน และเว้นแนวตามเส้นด้ายที่เตรียมผังไว้ให้
แห้ง ประมาณ 1 - 2 วัน ( ในระหว่างที่ตัวเชื่อมยังไม่แห้งห้ามเหยียบย่ำหรือวางสิ่งของใด ๆ เด็ดขาด )
4. เมื่อพื้นแห้งแล้ว ใช้ปูนซีเมนต์ขาวยาแนวให้ทั่วทุกแผ่น หากกระเบื้องมีสีต่างกัน การยาแนวจะต้องผสม
สีกันฝุ่นกับปูนซีเมนต์ขาวให้คล้ายคลึงกับสีของกระเบื้องนั้น ๆ ทุกครั้ง

ขั้นตอนการขัดเงา
เมื่อเสร็จขั้นตอนการปูพื้นแล้ว ถ้ามีงานอื่นที่จะมีผลกระทบกับกระเบื้องหินขัด ควรติดตั้งงานดัง
กล่าวให้เสร็จก่อน
1. ใช้เครื่อง่ขัดโดยให้เริ่มจากหินขัดชนิดหยาบ เพื่อลบรอยต่อระหว่างแผ่น ระหว่างนี้หากปูนซีเมนต์ขาวที่
ยาแนวไว้หลุดให้ทำการยาแนวใหม่ก่อนทุกครั้ง
2. เมื่อขัดจนรอยต่อระหว่างแผ่นหมดไป จึงเปลี่ยนไปใช้หินขัดชนิดละเอียด ให้สังเกตว่าพื้นเรียบเสมอกัน
ทั้งหมดแล้ว (ไม่มีรอยขีดข่วนเนื่องจากการขัดหยาบ)
3. หลังจากนั้น ให้ใช้หินขัดเงา เพื่อให้พื้นมีความเงามากขึ้น
* การขัดหยาบ ขัดละเอียดและขัดเงาให้ใช้น้ำหล่อลื่นทุกครั้ง *
4. เมื่อเสร็จขั้นตอนข้างต้นแล้ว ให้ล้างทำความสะอาดพื้นแล้วทิ้งให้แห้งก่อนลงน้ำมันแว๊กซ์ และใช้เครื่อง
ปัดเงาให้ทั่วถึงทุกแผ่น พื้นที่ปูด้วย MARBLEX ก็จะเรียบเงาตามมารฐานทันที
วิธีการบำรุงรักษา
1. กวาดเศษผงฝุ่นละอองหรือเม็ดทราย ซึ่งเกาะอยู่ตามพื้นอาคารให้สะอาดก่อน หรือจะใช้เครื่องดูดฝุ่นก็ทำ
ให้พื้นสะอาดยิ่งขึ้น
2. ใช้ผ้าหรือม๊อบชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดบริเวณพื้นอาคารก่อน 1 ครั้ง (ในกรณีที่พบคราบสกปรกมา ๆ ควรจะใช้
ผ้าชุบน้ำผสมผงซักฟอกทำความสะดาดก่อนทุกครั้ง) ถ้ายังไม่ออก ให้ใช้สก๊ตไบร์ทชุบผงซักฟอกขัด
บริเวณดังกล่าวอีกครั้ง จนคราบต่าง ๆ ออกาจนหมดแล้วใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดให้สะอาด และเช็ดให้แห้งอีกครั้ง
3. เมื่อเสร็จชั้นตอนตามข้อ 2 แล้ว สังเกตว่าพื้นแห้งสนิทหรือยัง (ระยะเวลาที่พื้นแห้งขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่จะทำ
ความสะอาดเสียก่อน จึงที่จะปฎิบัติตามคำแนะนำตั้งแต่ข้อ 1 ถึงข้อ 3 ให้เสร็จสิ้นเรียบร้อยทุกครั้ง จึงจะ
เปิดพื้นดังกล่าวตามปกติต่อไป

งานมุงหลังคาอาคารขาดใหญ่

All step Postension Super flatfloor surface finish with floorhardener

Method Statement for Post tension slab (Bonded System)

ขั้นตอนการทำระบบพื้น Post Tension (CCL Bonded System)
1. ติดตั้งค้ำยัน, แบบพื้น และแบบข้าง
2. วางเหล็กเสริมล่าง
3. วางลวดอัดแรง และติดตั้ง ANCHORAGE ตามแบบ SHOP DRAWING
4. วางเหล็กเสริมบนบริเวณหัวเสา
5. เทคอนกรีต
6. ดึงลวดอัดแรงเมื่อกำลังอัดของคอนกรีตรูปทรงกระบอกไม่น้อยกว่า 240 ksc
7. อัดน้ำปูนเข้าท่อร้อยลวดอัดแรง

การดึงลวดอัดแรง (STRESSING)
1. เครื่องมือและอุปกรณ์การดึงลวดอัดแรง
- Hydraulic Pump
- Hydraulic Jack
- CCL Mastermatc, Proving Ring
2. การดึงลวดอัดแรง
การดึงลวดจะกระทำเมื่อกำลังอัดประลัยคอนกรีตรูปทรงกระบอกไม่น้อยกว่า 240 กก. / ตร.ซม.
โดยจะทำตามลำดับดังนี้

2.1 ก่อนดึงลวด ทำการ Calibrate เครื่องดึงลวดและทำเครื่องหมาย โดยการพ่นสีไว้ที่ปลายลวด
ที่จะดึง เพื่อเป็นระยะอ้างอิงในการวัดหาค่าระยะยืดของลวด (โดยทั่วไปจะพ่นสีห่างจากกิ๊ฟ
จับลวดประมาณ 10 ซม.)
2.2 ทำการดึงลวด 50 % ของจำนวนลวดทั้งหมดในแนว Main Tendon หรือ ดึงกลุ่มเว้นกลุ่ม
2.3 ทำการดึงลวด 50 % ของจำนวนลวดทั้งหมดในแนว Distribute Tendon
2.4 ดึงลวดที่เหลือทั้งหมดในแนว Main Tendon
2.5 ดึงลวดที่เหลือทั้งหมดในแนว Distribute Tendon
2.6 หลังจากดึงลวดเสร็จเรียบร้อย จะทำการวัดระยะยืดจริง โดยวัดระยะจากกิ๊ฟ ถึงตำแหน่งพ่นสีที่ทำไว้
เพื่อนำค่าระยะยืดจริงของลวดเปรียบเทียบกับค่า Elongation ที่ออกแบบไว้
2.7 กรณีที่วัดค่า Elongation จากการดึงลวด ได้ค่าไม่ตรงตามข้อกำหนด จะต้องทำการดึงซ่อม หรือ
หาทางแก้ไขเป็นกรณีไป
3. การควบคุมแรงดึงในเส้นลวด
3.1 ควบคุมแรงดึงจาก Pressure - Gage ที่เครื่อง Hydraulic Pump ซึ่งได้รับการ Calibrate
จาก Load Cell หรือ Proving Ring ที่ได้รับการเทียบแรงจากสถาบันที่เชื่อถือได้ทุก ๆ 6 เดือน
โดยใช้แรงดึง 75 % Eup. ซึ่งเท่ากับ 14 ตัน
3.2 เปรียบเทียบค่าระยะยืด จริงของลวดกับค่า Elongation ที่ได้ออกแบบไว้ โดยค่าที่ได้จะแตกต่างกัน
ไม่เกิน 5 % (ตามข้อกำหนด)

4. กรณีที่ค่าระยะยืดจริงของลวดกับ Elongation ที่ออกแบบไว้แตกต่างกันเกิน 5 % ให้ทำการตรวจสอบ และ
แก้ไขเป็นกรณี คือ
4.1 กรณีเกิน -5% (ระยะยืดของลวดน้อยกว่ารายการคำนวณ Elongation)
- ให้เพิ่มแรงดึงแต่ต้องไม่เกิน 80 % Fpu. (15 ตัน ) แล้ววัดระยะยืดของลวดที่เพิ่มขึ้น
- กรณีที่เพิ่มแรงดึงถึง 80 % Fpu. แล้ว ระยะยืดของลวดเกิน -5% ให้ทำการคำนวณตรวจสอบโครงสร้าง
เฉพาะส่วนนั้น ๆ โดยใช้ค่าแรงดึงลวดที่เกิดขึ้นจริงกับลวดนั้น ๆ ส่งวิศวกรที่ควบคุมงานเพื่อตรวจสอบ
พิจารณาต่อไป
4.2 กรณี +5 % (ระยะยึดจริงมากกว่ารายการคำนวณ Elongation)
- ตรวจสอบแรงดึง โดย Re-Stressing ด้วยแรง 75 % Fpu. (14 ตัน) สังเกตระยะยืดเพิ่มแรงช้า ๆ
สังเกตระยะยืดจนลวดขยับตัวอ่าน Pressure Gage จะได้ค่าแรงในลวดเส้น นั้น ๆ ตรวจสอบว่าเกิน 80 %/ Fpu.
หรือไม่ ถ้าไม่เกินถือว่าผ่าน กรณี 50 % Fpu. ให้รายงานผู้ออกแบบเพื่อหาทางแก้ไขต่อไป
5. การอัดน้ำปูน ( Grouting Cement )
5.1 เครื่องมือและอุปกรณ์การอัดน้ำปูน
- เครื่องมืออัดน้ำปูน Mono Pump
- เครื่องผสมปูน (Mixer Tank)


5.2 วัสดุ Grouting Cement
วัสดุ Grouting Cement เป็นส่วนผสมของบอร์ดแลนด์ซีเมนต์ชนิดที่ 1 ผสมกับน้ำและ Admixture
โดยมีอัตราส่วนของน้ำ ต่อ ซีเมนต์ (W/C RATIO) ไม่เกิน 0.45 โดยน้ำหนักดังอัตราส่วนต่อไปนี้
- ปอร์ตแลนด์ซีเมนต์ชนิดที่ 1 = 50 kg.
- ADMIXTURE (Aluminum) ส่วนผสมตามสูตรของ Admixture แต่ละชนิด
- น้ำ = 20 - 22 ลิตร
ก่อนจะนำส่วนผสมไปอัดน้ำปูน จะต้องทำการทดสอบการไหล (Test Flow Rate) ของส่วนผสมก่อน โดย
ให้ได้ค่าอัตราการไหลประมาณ 11 วินาที โดยใช้ปริมาตร 1.7 ลิตร และ จะต้องทำการเก็บลูกปูนไว้ทดสอบกำลังอัด
(151 ksc อายุ 7 วัน), (280 ksc อายุ 28 วัน)
หมายเหตุ น้ำปริมาตร 1.7 ลิตร ใช้เวลาประมาณ 7-8 วินาที
5.3 ขั้นตอนการอัดน้ำปูน
- ก่อนการอัดน้ำปูนจะต้องทำการอุดปูนทรายหุ้มสมอยึด เพื่อป้องกันการรั่วของน้ำปูน Grout บริเวณสมอยึด
หมายเหตุ ทำการตัดปลายลวดก่อนทำการอุดปูนทราบหุ้มสมอยืด
- ทำความสะอาดท่อร้อยลวดอัดแรง โดยการอัดน้ำหรือเป่าลมเข้าไปในท่อเพื่อไล่สิ่งสกปรกที่อยู่ภายในท่อออก
และยังเป็นการตรวจสอบว่าท่อตันหรือไม่ ถ้าตันให้ทำการเจาะรูใหม่ เพื่อให้สามารถอัดน้ำปูนได้เต็ม
- ทำการอัดน้ำปูนเข้าไปในท่อร้อยลวดอัดแรง ผ่านรูทีสมอยืดด้สนหนึ่งให้น้ำปูนไหลผ่านออกที่ปลายสมอยึดอีกด้านหนึ่ง แล้วจึงทำการปิดรูปที่ปลายสมอยึดด้านท้าย คงค้างแรงดันอย่างน้อย 50 PSI หรือ 3.5 ksc. เป็นเวลา 5 วินาที
ก่อนทำการปิดรูที่ Grouting End
- ทำการต่อท่า Air Vent ภายหลังจากการอัดน้ำปูนอย่างน้อย 24 ชั่วโมง