16 มิถุนายน 2552

09-06-13 เครนสร้างตึกเทคโนฯพระนครถล่มทับคนงานดับ

เครนสร้างตึกเทคโนฯพระนครถล่มทับคนงานดับ 1

เครนก่อสร้างอาคาร ม.เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร หักทับช่างไฟเสียชีวิต 1 คน ขณะเดินสายไฟ ส่วนคนขับรถเครนได้รับบาดเจ็บ ตร.สน.สามเสนเตรียมเรียกวิศวกรและสถาปนิกดำเนินคดีร่วมกันประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

วันนี้ (13 มิ.ย.)เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.ร.ต.ท.สมชาย เชาวนะ ร้อยเวร สน.สามเสน รับแจ้งเหตุเครนก่อสร้างถล่มบริเวณวัดเทวราชกุญชร วรวิหาร จุดรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบเครนก่อสร้างขนาดใหญ่หล่นพาดทับรถบรรทุก เจดีย์ หลังคาและทางเดินพระอุโบสถได้รับความเสียหายแตกหักเศษอิฐกระจายเกลื่อนกลาด พบผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายตะวัน พลเยี่ยม เจ้าหน้าที่ไฟฟ้า ขณะเกิดเหตุกำลังเดินสายไฟภายในอาคาร และผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือนายสุริยะ แสนสุข คนขับรถเครน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนบริเวณที่เกิดเหตุได้นำเชือกมากั้นไม่ให้บุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปภายในเนื่องจากอาจได้รับอันตราย

พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1เปิดเผยภายหลังเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุว่า บริเวณดังกล่าวบริษัทสแตนดาร์ดเพอร์ฟอร์แม้นซ์ จำกัด เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ ม.เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ขณะเกิดเหตุคนงานก่อสร้างได้เกี่ยวเหล็กกับรถเครนเพื่อทำการก่อสร้าง ระหว่างที่เครนกำลังยกเหล็กขึ้นไป ตัวเกี่ยวครูดทำให้เหล็กเคลื่อน เครนแกว่งเสียหลักจนเหล็กหล่นลงมาจนเครนเสียหลักหักลงมาทับทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บอีก 1 คน รถยนต์เสียหายทั้งสิ้น 3 คัน พระอุโบสถและเจดีย์เสียหาย เบื้องต้นได้นำตัวนายอภิชัย ลาภทอง ชาวยโสธร คนขับรถบรรทุกที่เครนหล่นลงมาทับ และนายทองสุข เทพาขัน คนงานที่ทำหน้าที่เกี่ยวเหล็กกับเครน ไปสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมกันนี้จะได้เรียกตัวนายปฐมพงศ์ คุ้มผล วิศวกรโยธา และ น.ส.รัฏฐกรณ์ ภักดี สถาปนิก มาสอบปากคำและดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายต่อไป

สำหรับโครงการก่อสร้างดังกล่าวมีนายสังคม นำสุข เป็นผู้จัดการโครงการ น.ส.ศรีสุดา สานิ เป็นเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย และนายธวัชชัย นวเลิศปัญญา เป็นหนัวหน้าผู้คุมงาน กำหนดเริ่มสัญญาก่อสร้างเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2551 และสิ้นสุดโครงการในวันที่ 3 มิ.ย. 2553 งบประมาณก่อสร้างทั้งสิ้น 146,300,000 บาท



โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ASTVผู้จัดการ
http://mybuilt.blogspot.com

09-06-10 ก.ค.นี้ เริ่มเจาะอุโมงค์ราชพฤกษ์-นครอินทร์

คาด ก.ค.นี้ เริ่มเจาะอุโมงค์ราชพฤกษ์-นครอินทร์

ทางหลวงชนบทเผย ก.ค.เริ่มก่อสร้างอุโมงค์ ราชพฤกษ์-นครอินทร์ได้ ช่วยลดปัญหาจราจรติดขัด ก่อสร้าง 3 ปี พร้อมเตรียมต่อขยายโครงข่ายทาง รองรับการใช้งานสนามบินสุวรรณภูมิ

นายวิชาญ คุณากูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทช.อยู่ระหว่างการประกวดราคาคัดเลือกผู้รับเหมาก่อสร้างอุโมงค์ลอดบริเวณวงเวียนถนนราชพฤกษ์-ถนนนครอินทร์ และทางคู่ขนานถนนราชพฤกษ์ ช่วง กม.15+660 ถึง 17+800 สะพานคู่ขนานข้ามคลองบางกอกน้อย จังหวัดนนทบุรี ซึ่งคาดว่าจะลงนามสัญญาและเริ่มงานก่อสร้างได้ในเดือนก.ค. 2552 โดยใช้เวลาในการก่อสร้าง 3 ปี

ทั้งนี้โครงการดังกล่าวจะแก้ปัญหาจราจรบริเวณ วงเวียนจุดตัดถนนราชพฤกษ์-ถนนนครอินทร์โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน ซึ่งมักจะเกิดอุบัติเหตุในบริเวณดังกล่าวค่อนข้างบ่อย ซึ่งโครงการจะทำให้ขีดความสามารถในการรองรับการจราจรเพิ่มมากขึ้น และปรับปรุงประสิทธิภาพ ถนนราชพฤกษ์-ถนนนครอินทร์ ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยรูปแบบจะเป็นการก่อสร้างอุโมงค์ขนาด 6 ช่องจราจร ความยาวประมาณ 650 เมตร บนถนนราชพฤกษ์ลอดใต้วงเวียนจุดตัดถนนราชพฤกษ์-ถนนนครอินทร์ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ ในบริเวณทางแยกดังกล่าว จะมีลักษณะเป็นอุโมงค์ทางลอดในการเดินทางแนวเหนือ-ใต้ สะพานลอยข้ามแยกในการเดินทางแนวตะวันออก-ตะวันตกโดยวงเวียนยังคงสามารถใช้งานได้สำหรับรถที่จะเลี้ยวซ้ายและขวาในการเดินทาง

นอกจากนี้ ทช.ยังได้มอบหมายให้สำนักก่อสร้างทาง เร่งดำเนินการศึกษาออกแบบส่วนต่อขยายถนนสายแยก ทล.34 (กม.ที่ 26) เชื่อมกับทางหลวงชนบทสาย ฉช. 3001 พร้อมทางต่างระดับ เพื่อรองรับปริมาณการจราจรบริเวณโดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิ และรองรับการเจริญเติบโตในพื้นที่ และพัฒนาโครงข่ายการคมนาคมให้สมบูรณ์มากขึ้น ตามนโยบายของนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

อย่างไรก็ตามการต่อขยายถนนสายแยกทางหลวงหมายเลข 34 (กม.ที่ 26) ถึงทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 โดยต่อขยายจาก กม.8+900 ข้ามทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ไปเชื่อมกับทางหลวงชนบทสาย ฉช.3001 (ถนนหลวงแพ่ง หรือ ถนนเทพราช-ลาดกระบัง) โดยมีเขตทางกว้างประมาณ 30 เมตร จำนวน 4 ช่องจราจร 2 ทิศทาง มีเกาะกลางแบ่งแยกทิศทางการจราจร ซึ่งเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการเดินทาง ลดอุบัติเหตุทางด้านการจราจร รวมถึงลดเวลา ค่าใช้จ่ายในการเดินทางและการขนส่งสินค้าให้น้อยลงด้วย นอกจากนี้กรมยังมีแผนที่จะปรับปรุงถนนช่วงระหว่าง กม.5+000 ถึง กม.8+900 ซึ่งมีปัญหาสภาพดินอ่อนใต้คันทางในบางบริเวณ ให้มีความมั่นคงแข็งแรงมากขึ้นเพื่อเพิ่มอายุการใช้งานของถนนและสร้างความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://mybuilt.blogspot.com

09-06-08 รถไฟฟ้าสายสีม่วง สัญญา 1 ฉลุย


รถไฟฟ้าสายสีม่วง สัญญา 1 ฉลุย ผู้ว่าฯ รฟม.คนใหม่ เริ่มงาน 1 ก.ค.นี้

บอร์ด รฟม.เห็นชอบผลเจรจาลดค่าก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-บางซื่อ สัญญาที่ 1 เหลือ 14,842 ล้านบาท เปิดซองราคาสัญญาที่ 2 มิ.ย.นี้ “บิ๊กทางหลวง” การันตีคุณภาพคับแก้ว พร้อมเห็นชอบค่าตอบแทน “ชูเกียรติ โพธยานุวัตร์” ผู้ว่าการ รฟม.คนใหม่ เดือนละ 3.4 แสนบาท คาดเริ่มงานได้ 1 ก.ค.นี้

มีรายงานข่าวว่า คณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เห็นชอบผลการเจรจากับกลุ่ม CKTC Joint Venture ที่ได้มีการต่อรองราคาค่าก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงสัญญา 1 ครั้งล่าสุดลงมาเหลือ 14,842 ล้านบาท และคาดว่า จะมีการเปิดซองราคาสัญญา 2 ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2552 นี้

นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อธิบดีกรมทางหลวง ในฐานะประธานคณะกรรมการ รฟม.เปิดเผยภายหลังการประชุม โดยระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ รฟม.เห็นชอบให้ลดราคาค่าก่อสร้างโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง สัญญาที่ 1 งานก่อสร้างทางยกระดับสายตะวันออก ช่วงจากเตาปูน-พระนั่งเกล้า ตามที่คณะอนุกรรมการพิจารณาราคาก่อสร้างสัญญาที่ 1 ได้ต่อรองกับกลุ่ม CKTC Joint Venture ประกอบด้วย บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK และบริษัท โตคิว คอนสตรัคชั่น จำกัด ซึ่งเป็นผู้ชนะการประมูลในโครงการดังกล่าว มาเจรจาเพื่อต่อรองลดค่าก่อสร้าง ซึ่งสรุปว่า กลุ่ม CKTC ยอมลดเหลือ 14,842 ล้านบาท จากเดิม 14,965 ล้านบาท โดยเป็นราคาค่าก่อสร้างที่แท้จริง 14,242 ล้านบาท และสำรอง 600 ล้านบาท ทั้งนี้ ยืนยันว่าการลดราคาค่าก่อสร้างคุณภาพงานก่อสร้างยังเหมือนเดิมโดยไม่มีการปรับลดปริมาณงานลง

“วงเงินที่ต่อรองได้ดังกล่าว แยกเป็นค่าก่อสร้าง หรืองานโยธา จำนวน 14,242 ล้านบาท และค่าเผื่อเหลือเผื่อขาด 600 ล้านบาท โดยส่วนค่าเผื่อเหลือเผื่อขาดจะจ่ายตามจริง ซึ่งจะจ่ายขั้นต่ำ 50 ล้านบาท ทั้งนี้จะมีการรายงานให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบต่อไป”

ก่อนหน้านี้ รฟม.ได้มีการเจรจาต่อรองค่าก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง สัญญาที่ 1 กับกลุ่ม CKTC Joint Venture ลงมาที่ 14,965 ล้านบาท ดังนั้น ผลการเจรจาต่อรองราคาครั้งล่าสุดจึงปรับลดลงมาประมาณ 123 ล้านบาท สำหรับขั้นตอนต่อไป รฟม.จะเสนอขอเงินกู้จากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) ก่อนเสนอ ครม.พิจาณาอนุมัติและเซ็นสัญญาก่อสร้างได้ทันที

นอกจากนี้ คณะกรรมการ รฟม.ยังเห็นชอบค่าตอบแทนของ นายชูเกียรติ โพธยานุวัตร์ รองผู้ว่าการ รฟม.ที่ได้รับการสรรหาเป็นผู้ว่าการ รฟม.คนใหม่ แทน นายประภัสร์ จงสงวน เป็นจำนวนเงิน 340,000 บาทต่อเดือน ซึ่งต่ำกว่าวงเงินว่าจ้าง นายประภัสร์ อดีตผู้ว่าการ รฟม. เนื่องจากในแผนการทำงานโดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้านั้น ผู้ว่าการคนใหม่ไม่ต้องรับผิดชอบในการเจรจาต่อรองเรื่องสัญญาเงินกู้ จากนั้นจะเสนอสำนักงานคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เห็นชอบ ก่อนเสนอต่อที่ประชุม ครม.อนุมัติ ซึ่งคาดว่า นายชูเกียรติ จะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ได้ประมาณวันที่ 1 กรกฎาคม 2552 นี้ เป็นต้นไป


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://mybuilt.blogspot.com/

09-06-08 กทม.เดินหน้าถอนป้ายโฆษณาผิดกฎหมาย

กทม.เดินหน้าถอนป้ายโฆษณาผิดกฎหมาย

นายประกอบ จิรกิติ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงการแก้ปัญหาป้ายโฆษณาในพื้นที่ กทม. ว่า ขณะนี้ กทม.ได้กวดขันและตรวจสอบป้ายโฆษณาที่ก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือก่อสร้างผิดไปจากแบบที่ได้รับอนุญาต และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทุกราย ส่วนป้ายผิดกฎหมายทั้งหมดอยู่ระหว่างรื้อถอนของสำนักงานเขต ทั้งนี้การแก้ไขปัญหาป้ายโฆษณาของ กทม. ได้เสนอให้ออกกฎกระทรวงเรื่องป้ายโดยเฉพาะ โดยเพิ่มแรงลมในการออกแบบโครงสร้างอาคารประเภทป้าย ซึ่งขณะนี้เรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงมหาดไทย (มท.) ประกอบกับขณะนี้ได้มีกฎกระทรวง เรื่อง การตรวจสอบอาคาร ซึ่งป้ายเป็นอาคารประเภทหนึ่งที่เจ้าของป้ายจะต้องจัดให้มีการตรวจสอบด้านความมั่นคงแข็งแรง ทำให้อาคารประเภทป้ายต้องมีการตรวจสอบทุกปี นอกจากนั้นป้ายที่ฝ่าฝืนกฎหมาย กทม.ก็ได้มีการดำเนินคดีและออกคำสั่งต่างๆ ตามกฎหมายควบคุมอาคาร รวมทั้งคำสั่งห้ามใช้ป้าย ซึ่งการห้ามใช้ป้ายนั้นจะห้ามผู้ลงโฆษณาด้วย โดยหากยังฝ่าฝืนลงโฆษณาบนป้ายที่ผิดกฎหมาย ผู้ลงโฆษณาก็จะมีความผิดตามกฎหมายควบคุมอาคารด้วย ตามมาตรา 67 พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มีโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และผู้ฝ่าฝืนยังต้องโทษปรับอีกวันละไม่เกินสามหมื่นบาท ตลอดระยะเวลาที่ฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้องต่อไป
ด้านนายทรงศักดิ์ นุชประยูร ผู้อำนวยการกองควบคุมอาคาร เปิดเผยว่า สำหรับข้อมูลป้ายที่สำนักงานเขตจะต้องดำเนินการรื้อถอนตั้งแต่วันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา มีจำนวน 272 ป้าย ในจำนวนนี้รื้อถอนแล้ว 154 ป้าย อยู่ระหว่างรื้อถอน 107 ป้าย ที่เหลือได้รับการยืนยันว่าสร้างก่อนปี 33 ซึ่งเป็นป้ายที่ไม่ต้องขออนุญาต ถือว่าถูกต้องตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 จำนวน 11 ป้าย นอกจากนั้นจากการรายงานของสำนักงานเขตทั้ง 50 เขต มีจำนวนป้ายโฆษณาในพื้นที่ทั้งหมด 1,032 ป้าย ในจำนวนนี้ถูกต้องตามกฎหมาย 836 ป้าย ก่อสร้างผิดแบบที่ขออนุญาต 36 ป้าย และก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต 160 ป้าย

from เนชั่นทันข่าว8 มิย. 2552 19:15 น.

09-03-22 รองผู้ว่าฯ ปากน้ำตรวจอาคารถล่ม

รองผู้ว่าฯ ปากน้ำตรวจอาคารถล่ม ประสาน ปภ.เขต 8 รื้อซากปรักหักพัง

จากกรณีเหตุอาคารถล่มทับบ้านพักคนงาน กระทั่งมีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 18 คน เป็นเด็ก 5 คน เหตุเกิดภายใน ซ.ศรีบุญเรือง ถ.เทพารักษ์ ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
นายสุรชัย ขันอาสา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เปิดเผยภายหลังเดินทางมาดูที่เกิดเหตุว่า ได้กำชับให้เทศบาล ต.สำโรงเหนือ เจ้าของพื้นที่ตรวจสอบว่า อาคารดังกล่าวขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ พร้อมกับกันพื้นที่ ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องห้ามเข้าพื้นที่ ทั้งนี้ ยังได้ประสานกับป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 8 จ.ปราจีนบุรี นำเครื่องจักรกลหนักมาทำการรื้อซากปรักหักพัง และอาคาร เนื่องจากเห็นว่าไม่ปลอดภัย เพราะบางส่วนของอาคารอาจถล่มเพิ่ม

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์22 มีนาคม 2552 15:38 น.
http://mybuilt.blogspot.com

ระทึก!บ่อบำบัดน้ำเสียหน้าห้างบิ๊กซีลาดพร้าวบึม!


ระทึก!บ่อบำบัดน้ำเสียหน้าห้างบิ๊กซีลาดพร้าวบึม! แม่ค้าเจ็บ 4 ราย คาดเกิดจากแก็สมีเทนระเบิด ด้านเขตวังทองหลางเตรียมถกผู้รับผิดชอบหามาตรการแก้ไข ตำรวจเร่งหาตัวเจ้าของพื้นที่มาดำเนินการต่อไป เมื่อเวลา 20.00 น.วันนี้ 11 มิ.ย.ร.ต.ท.สถาพร สุขสว่าง ร้อยเวร สน.โชคชัย รับแจ้งเหตุระเบิดบริเวณลาดจอดรถหน้าห้างบิ๊กซี สาขาลาดพร้าว แขวงและเขตลาดพร้าว กทม.จึงประสานเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตวังทองหลาง เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นลานกว้างประมาณ 30 เมตรหน้าห้างบิ๊กซีที่ให้ผู้ค้าเช่าแผงขายสินค้าต่างๆ ตั้งแต่เวลา 18.00 น.จนถึงเวลา 23.00 น.โดยเบื้องต้นพบว่าบริเวณพื้นผิวของลานจอดรถดังกล่าวมีแผงกั้นท่อระบายน้ำเสีย ส่วนบริเวณด้านล่างเป็นบ่อบำบัดน้ำเสียของห้างบิ๊กซี โดยแรงระเบิดทำให้พื้นบริเวณลานจอดรถดังกล่าวได้รับความเสียหาย รอยแยกยาวประมาณ 10 เมตรและยกตัวดันฝาท่อระบายน้ำสูงขึ้นประมาณ 1เมตร และส่งกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้ง คล้ายสิ่งปฏิกูล นอกจากนี้ยังทำให้มีผู้บาดเจ็บเป็นรอยถลอก ที่บริเวณ ศีรษะ แขนและลำตัว จำนวน 4 ราย ซึ่งได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเปาโลสยาม ซอยโชคชัย 4 ทราบชื่อคึอน.ส.สุวรรณา อนุศักดิ์ชน อายุ 24ปี น.ส.เกศดา ยินดี อายุ 20 ปี นางนิดา สร้อยจำปา อายุ 54 ปี น.ส.ศรัณยา แห้วไธสง อายุ19 ปี ทั้งหมดเป็นแม่ค้าขายสินค้าบริเวณหน้าห้างฯ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำเชือกมากั้นบริเวณที่เกิดเหตุ และให้พ่อค้าแม่ค้าที่เช่าแผงบริเวณดังกล่าวนำสินค้าออกจากที่เกิดเหตุเพื่อความปลอดภัย ส่วนพื้นที่บริเวณหน้าห้างบิ๊กซีที่ไม่ได้รับความเสียหายยังสามารถขายสินค้าได้ ร.ต.ท.สถาพร กล่าวว่า เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นเอง ไม่ได้เป็นเหตุลอบวางระเบิดแต่อย่างใด เนื่องจากบริเวณด้านล่างเป็นบ่อบำบัดน้ำเสียของห้างฯ ทำให้มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 4 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่มีผู้บริหารของห้างดังกล่าวติดต่อมา เบื้องต้นสอบถามเจ้าหน้าที่ดูแลบริเวณห้างฯต่าง ปฏิเสธว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวอยู่นอกตัวอาคาร ไม่ใช่พื้นทื่ของห้างบิ๊กซี ซึ่งได้เช่าพื้นที่ของห้างอิมพีเรียล สาขาลาดพร้าว อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะสอบปากคำผู้เสียหายและตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวว่าอยู่ในความรับผิดชอบของเอกชนรายใด นายสมชาย พิสิทสวัสดี หัวหน้าฝ่ายสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล กล่าวว่า เบื้องต้นน่าจะเกิดจากแก๊สมีเทน ที่เกิดจากการหมักหมมของสิ่งปฏิกูล ซึ่งพบต้นทราบว่าบวิเวณด้านล่างเป็นบ่อพักน้ำเสีย จึงเป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดจากประกายไฟ อย่างใดอย่างหนึ่ง จนทำให้เกิดแรงระเบิดขึ้น เช่นอาจจะมีคนโยนก้นบุหรี่ลงไปในท่อพักน้ำเสีย เนื่องจากสอบถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เห็นเหตุการณ์ ทราบว่าได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด 2ครั้ง มีควันและเห็นมีประกายไฟเกิดขึ้นเช่นกัน ขณะที่นายกรพัส หาญกิจ ผู้ช่วยผู้อำนวยการเขตวังทองหลาง กล่าวว่า หลังจากนี้จะประสานผู้บริหารของห้างฯ เพื่อดูแลรับผิดชอบด้านความปลอดภัยต่อไป โดยอาจจะมีคำสังของสำนักงานเขตวังทองหลางให้ทางห้างฯ ดูแลเรื่องหลักการสุขาภิบาล การจัดการบ่อบำบัดน้ำเสียให้มีมาตรฐานมากขึ้น ส่วนสำนวนการสอบสวนคงเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนสน.โชคชัยจะดำเนินการต่อไปที่มา ASTV ผู้จัดการออนไลน์
http://mybuilt.blogspot.com

คมชัดลึก :ปูนพังถล่มนั่งร้านก่อสร้างทับ 3 คนงานเสียชีวิต

คมชัดลึก :ปูนพังถล่มนั่งร้านก่อสร้างทับ 3 คนงานเสียชีวิตคาที่ เจ็บอีก 4 ขณะกำลังก่อสร้างโรงภาพยนตร์เอสพลานาด ซีนีเพล็กซ์ รัตนาธิเบศร์ ตอนนี้สามารถนำศพออกมาได้ 2 ราย อีก 1 รายยังติดอยู่ ด้านผู้ว่าฯเมืองนนท์และผู้การยันจะตรวจสอบถึงสาเหตุของการเร่งเทปูน เตรียมเรียกวิศวกรผู้คุมงาน โฟร์แมน สอบ ด้านวิศวกรชี้อาจเกิดจากนั่งร้านชำรุดรับน้ำหนักไม่ไหว