30 มิถุนายน 2552

1 ต.ค. นี้เตรียมเปิดแอร์พอร์ตลิงค์ให้คนไทยลองใช้ฟรี

แอร์พอร์ตลิงค์คืบกว่า 98% คาดว่าจะเปิดบริการทัน 12 ส.ค.นี้ โดยให้รฟท.ตั้งบริษัทลูกขึ้นบริหาร นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการทดสอบเดินรถไฟฟ้าเชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิ (แอร์พอร์ต เรล ลิงค์) วันแรกว่า ขณะนี้โครงการแอร์พอร์ตลิงค์คืบหน้าไปแล้วกว่า 98% ทั้งโครงสร้างพื้นฐานและระบบการเดินรถ โดยคาดว่าสามารถเปิดให้บริการได้ทันในวันที่ 12 สิงหาคมนี้แน่นอน
โดยในวันนี้ (13 ก.พ.) ได้มีการทดสอบการเดินรถจากสถานีรามคำแหงถึงสถานีท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
สำหรับระบบเช็คอินกระเป๋าผู้โดยสารจะเช็คอินที่ซิตี้เช็กอิน เทอร์มินอล ที่สถานีมักกะสัน ซึ่งหากระบบเช็คอินยังไม่เรียบร้อยพร้อมกันจะให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดให้บริการเดินรถสำหรับผู้โดยสารไปก่อนจนกว่าระบบดังกล่าวจะเสร็จสมบูร์
อย่างไรก็ตาม ได้เร่งให้รฟท. จัดตั้งบริษัทลูกขึ้นมาบริหารการเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงค์ให้พร้อมและเปิดให้บริการได้ตามกำหนด
ด้านนายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ รฟท. กล่าวว่า ขณะนี้รฟท. ได้เสนอแผนรายละเอียดและชื่อบริษัทลูก คือ บริษัท เดินรถร่วม รฟท.จำกัด โดยให้กระทรวงคมนาคมเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอการบรรจุวาระเข้าที่ประชุม รวมทั้งได้ประสานงานขอจดทะเบียนบริษัทกับกระทรวงพาณิชย์ไว้แล้ว
หากครม. เห็นชอบก็สามารถยื่นขอจดทะเบียนบริษัทได้ภายใน 15 วัน และระหว่างรอการจัดตั้งบริษัทลูก รฟท.ก็ได้เร่งจัดหาผู้บริหารบริษัทลูก ซึ่งจะใช้คนของ รฟท.บริหารชั่วคราวควบคู่ไปกับการหาบุคลากรด้านงานบริหารเข้ามาดำเนินงานจำนวน 51 คน และพนักงาน อีก 450 คน
โดยระหว่างนี้จะมีการเปิดอบรมพนักงานให้มีความพร้อมสำหรับการให้บริการซึ่งใช้เวลาประมาณ 3 เดือน
สำหรับอัตราค่าโดยสาร สายรถด่วนในบื้องต้นได้กำหนดไว้ที่ 150 บาทต่อคน ส่วนขบวนรถในเมืองที่จะจอดรับผู้โดยสารตามสถานี 6 แห่ง อัตราค่าโดยสาร 30-50 บาท แต่จะมีการพิจารณาอีกครั้ง

1 ความคิดเห็น:

mybuilt กล่าวว่า...

1 ต.ค. นี้ เตรียมเปิด แอร์พอร์ตลิงค์ ให้คนไทยลองใช้ฟรี

1 ต.ค. นี้เตรียมเปิดแอร์พอร์ตลิงค์ให้คนไทยลองใช้ฟรี (ไทยรัฐ)
เผยความคืบหน้าโครงการลุล่วงแล้วกว่า 99% พร้อมเตรียมเรียกวิศวะกรอิสระเร่งตรวจสอบระบบความปลอดภัย ระบุขณะนี้ยังหาข้อสรุปตั้งบริษัทลูก รฟท.ไม่ได้

วันนี้ (14 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้เดินทางไปตรวจสอบความคืบหน้าโครงการระบบรถไฟฟ้าเชื่อมต่อท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและ สถานีรับส่งผู้โดยสารในเมือง หรือแอร์พอร์ตลิงค์ โดยเฉพาะพื้นที่ที่มักกะสัน ซึ่งจะเป็นจุดที่ผู้โดยสารสามารถเดินทางมาเช็กอินก่อนเดินทางไปยังท่า อากาศยานสุวรรณภูมิด้วยระบบรถไฟฟ้าเอ็กซ์เพรสไลน์ หรือการเดินทางด้วยระบบซิตี้ไลน์ที่จะจอดตามสถานีต่าง ๆ 6 สถานี ก่อนเดินทางไปสิ้นสุดที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

นายยุทธนา กล่าวถึงความคืบหน้าด้านการก่อสร้างในส่วนงานโยธาว่า ขณะนี้คืบหน้าแล้วร้อยละ 99.9 ส่วนงานระบบรถไฟฟ้าก็คืบหน้าร้อยละ 99.8 ถือว่างานทั้งหมดมีความพร้อม และตั้งแต่ รฟท.ได้เริ่มทดสอบระบบการเดินรถตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ขณะนี้ยังไม่มีปัญหาขัดข้องแต่อย่างใด หลังจากนี้จะเปิดให้วิศวกรอิสระเข้ามาตรวจสอบระบบความปลอดภัยของการเดินรถ โดยจะใช้เวลาไม่เกิน 3 เดือน โครงการจะพร้อมให้บริการ ส่วนกำหนดการที่จะเริ่มเดินรถทดสอบและเปิดให้ประชาชนทดลองใช้บริการตั้งแต่ วันที่ 1 ตุลาคมนี้ ซึ่งผู้โดยสารที่สนใจสามารถขอรับตั๋วที่สำนักงานบริหารโครงการที่มักกะสัน หรือฝ่ายประชาสัมพันธ์ สำนักงานใหญ่ รฟท. โดย รฟท.จะเปิดให้ประชาชนทดลองนั่งสัปดาห์ละ 1 วัน จนถึงวันที่ 5 ธันวาคมนี้ ก็จะเริ่มเดินรถอย่างจริงจัง หลังจากนั้น รฟท.จะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ทั้งระบบในเดือนมีนาคม 2553 โดยจัดเก็บค่าโดยสารเอ็กซ์เพรสไลน์ วิ่งจากมักกะสัน-สุวรรณภูมิ ไม่เกิน 150 บาท ซิตี้ไลน์ตั้งแต่ 15 บาท และสูงสุดไม่เกิน 40 บาท

ส่วนปัญหาการจัดตั้งบริษัทลูกที่ยังไม่ได้ข้อยุติ หลังจากสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ รฟท.ออกมาคัดค้านนั้น ผู้ว่าการ รฟท.กล่าวว่า ขณะที่ยังไม่มีบริษัทลูก รฟท.จะดำเนินการเรื่องแผนการทดสอบและการเตรียมความพร้อมในการบริหารระบบ รถไฟฟ้าด้วย รฟท.เอง หากในอนาคตเมื่อถึงเวลาที่จะต้องเปิดให้บริการแต่ยังไม่สามารถจัดตั้งบริษัท ลูกได้ รฟท.อาจจำเป็นต้องหาบริษัทผู้เชี่ยวชาญในการควบคุมระบบเดินรถมาบริหารงาน ก่อนเป็นระยะเวลา 2-3 ปี เพื่อให้สามารถเริ่มให้บริการได้ และมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้แก่พนักงานผู้ปฏิบัติงานของ รฟท.ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หากในอนาคตข้อพิพาทระหว่างฝ่ายบริหารและสหภาพฯ รฟท.ยังไม่ได้ข้อยุติ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีการจัดจ้างบริษัท Deutsche Bahn International (DBI) จากประเทศเยอรมนี เป็นผู้บริหารการเดินรถชั่วคราว จากปัจจุบันบริษัทดังกล่าวทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาฝึกอบรมให้แก่พนักงานที่จะ ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการเดินรถ ซึ่งก่อนหน้านี้คณะกรรมการ รฟท.ได้อนุมัติเงินว่าจ้าง 85 ล้านบาท




ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก