8 ตุลาคม 2552

Blog Master

B.ENGINEERING (CIVIL ENGINEER)
EXPERIENCE


Construction Line Co.,ltd.
July 2009 - Present
:
Project Manager:
RHYTHMratchada II
At Huai Khwang,Bangkok
For . Asian Property Development PLC.
Project cost 275,000,000 Baht
:
Ritta Co.,ltd.
Sep 2008 - May 2009
:
Project Manager:
Recall Thailand Phase II
At Samutprakarn Province
For . Recall Thailand Co.,Ltd.
Project cost 177,000,000 Baht
April - August 2008
:
Project Manager:
Tesco Lotus Hypermarket Pranburi
At Pranburi Prajuabkirikhan Province
For . Ek-Chai Distribution Co.,Ltd.
Project cost 163,710,000 Baht
Nov 2007 - Mar 2008
:
Project Manager:
Tesco Lotus Hypermarket Sena
At SENA Ayuttaya Province
For . Ek-Chai Distribution Co.,Ltd.
Project cost 139,100,000 Baht
July-October 2007
:
Project Manager:
Tesco Lotus Value Store Mae Chan
At Mae Chan Chiangrai Province
For . Ek-Chai Distribution Co.,Ltd.
Project cost 115,934,500 Baht
Jan -June 2007
:
Project Manager:
Tesco Lotus Compack Hyper Fang
At Fang Chiangmai Province
For . Ek-Chai Distribution Co.,Ltd.
Project cost 235,593,670 Baht
April -December 2006
Project Manager:
Tesco Lotus Distribution Bangbuathong
At Bangbuathong Nonthaburi Province
For . Ek-Chai Distribution Co.,Ltd.
Project cost 360,000,000 Baht
Dec 2005- March 2006
:
Project Manager:
Tesco Lotus Value Store Sattahip
At Sattahip Chonburi Province
For . Ek-Chai Distribution Co.,Ltd.
Project cost 54,000,000 Baht
April -Nov 2005
:
Project Manager:
Tesco Lotus Value Store Maesai
At Maesai Chringrai Province
For . Ek-Chai Distribution Co.,Ltd.
Project cost 154,000,000 Baht
Dec 2004 - March 2005
:
Project Engineer for :-
Ban Zaan Fresh Market
At Patong,Katoo District,Phuket Provine
For Kaewmaneepichai
Project cost 145,000,000 Baht
Sep -Nov 2004
:
Project Engineer for :-
Sweet Corn Factory
At Wangmung,Saraburi Province
For Siam Food Product Public Co.,Ltd.
Project cost 250,000,000 Baht
April-August 2004
:
Project Manager for:
Tesco Lotus Value Store Nakornpanom
At Nakorn Panom Province
For . Ek-Chai Distribution Co.,Ltd.
Project cost 74,880,000 Baht
Sep 2003 – March2004
:
Project Engineer for :
Tesco Lotus Value Store Mukdaharn
At Mukdaharn Province
For Ek-Chai Distribution Co.,Ltd.
Project cost 115,600,000 Baht
Mar 2003 – Aug 2003
:
Project Engineer for :
Bio Plant Phukiow
At Phukiow District,Chaiyapoom Province
Project cost 50,000,000 Baht
Mar 2002 – Feb 2003
:
Site Civil Engineer :-
DAVID DISTRIBUTION ( THAILAND ) LTD.
New Distribution Center Project Wangnoi,
Ayutaya Province
Project cost 275,000,000 Baht
Jul 2001 – Feb 2002
:
Site Civil Engineer :-
BEER THAI ( 1991 ) PCL
BTCL – KP Project ( Bid -6 ) Kampangphet Province
Project cost 226,000,000 Baht
Feb 2000 - Jun 2001
:
Site Civil Engineer :-
BEER THAI ( 1991 ) LTD.
BTCL – KP Project ( Bid – 1) Kamphangphet Province
Project cost 285,000,000 Baht
21 Jul 1999 – Jan 2000
:
Site Civil Engineer :-
Start work at Ritta
DISCOUNT STORE PROJECT ( MAKRO SATHORN )
Project cost 300,000,000 Baht
1998 – 1999
:
Work at Mar Engineering Co.,ltd ,Position Civil Engineer
WORK AT LAO PDR
Irrigation Project
1995 - 1998
:
Work at Waltzen Enterprize Co.,ltd ,Position site Civil Engineer
National Housing Authority
KEHA RAMKUMHANG
Project cost 900,000,000 Baht

http://mybuilt.blogspot.com

23 กันยายน 2552

การหล่อเสาคอนกรีตในที่ update 2009-09-09



Method Statement for Column Rebar and Form work

ขั้นตอนการผูกเหล็กและเข้าแบบเสา

1. หลังจากเทฐานรากหรือพื้นแล้ว Surveyor จะเป็นผู้มาให้ Line เสา โดยจะให้เป็น Center Line ของเสา ทั้งสองแกน หรือให้เป็น Offset Line ก็ได้

2. การหาตำแหน่งเสาจริงเพื่อตั้งแบบ นายช่าง / Foreman ผู้รับผิดชอบจะเป็นคนหา Line และตีเต๊าเองแล้วจึงตีกรอบ
ไม้ตีนแบบ โดยใช้ไม้ 1 1/2" x 3"
3. ติดตั้งเหล็กเสา มีข้อสังเกต คือ
- ถ้าเหล็กยื่นออกนอกแนวเสาให้แจ้งนายช่างผู้รับผิดชอบทัน
- ถ้ามีปั้นจั่นใช้งาน จะต้องผูกเสาเป็นโครง แล้วใช้ปั้นจั่นยกขึ้นติดตั้งจะประหยัดค่าแรงมากกว่า การผูกเหล็กเส้นในที่
- ถ้าเหล็กเสาสูงมากทำให้เอียงจะต้องใช้สลิงดึงไว้หรือใช้ไม้ค้ำ
- การโผล่เหล็กตอกเสา ( Starter Bar ) เพื่อทาบเหล็กต้องเช็คจากแบบหรือ Spec ว่าต้องต่อเยื้องระยะทาบ 50 % หรือไม่
- เช็คขนาดจำนวนของเหล็กยื่น และระยะห่างเหล็กปลอกให้ตรงตามแบบ
หมายเหตุ ตรวจสอบเหล็กก่อนเข้าแบบเสา
- ผูกลูกปูน Covering ไว้ที่เหล็กยืนเสา

4. ประกอบแบบเสาเป็นโครงตาม Form work Assembly โดยนายช่าง / Foreman จะต้องตรวจสอบแบบ
ตามรายการดังกล่าวก่อนยกขึ้นติดตั้ง ได้แก่
- จำนวนโครงคร่าว
- ความหนาไม้อัดสำหรับทำแบบต้อง = 15 ซม. เท่านั้น
- ต้องทำความสะอาดผิวไม้แบบ และทาด้วยน้ำมันทาแบบทุกครั้ง
5. ยกแบบเสาขึ้นติดตั้งและยึดตีนเสาไว้กับไม้ตีนแบบ
6. ติดตั้งโซ่ หรือสลิงยึดรั้งปากแบบ 4 มุม พร้อมกับ Turn Buckle เพื่อจัดดิ่งเสา
หมายเหตุ - โซ่ / สลิง = 3 หุน
- Turn Buckle = 5 หุน
- เช็คดิ่ง > 1/400
7. ติดตั้งเหล็กรัดเสาระยะห่างตาม Form work Assembly ขัดให้แน่น
8. เช็คดิ่งเสาโดยใช้ลูกดิ่งอย่างน้อย 2 ด้าน โดยเช็คที่ตำแหน่งใกล้ปากแบบและตีนเสา
9. อุดรูที่ตีนเสาและรอยต่อแบบ


ขั้นตอนการเทเสาคอนกรีต

1. ช่วงก่อนเทคอนกรีต
- เทน้ำปูน - ทรายลงไปในเสา ประมาณ 1-2 กระป๋อง ตอนที่รถปูนมาถึงหน้างาน (ห้ามเททิ้งไว้ก่อน)
- หย่อนสายไว้เบรเตอร์ลงไปให้ถึงตีนเสาโดยยังไม่ต้องติดเครื่อง ขนาดหัวไวเบรเตอร์ 1 1/2 x 2"
2. ช่วงระหว่างเทคอนกรีต
- การเทคอนกรีตให้เปิดเทครั้งละ 1/4 ของ Bucket กรณีขนาดของ Bucket = 0.5 คิว แล้วจี้ไวเบรเตอร์ พร้อมกับใช้
ฆ้อนยางเคาะที่ข้างแบบทุกครั้ง
หมายเหตุ ความสูงของคอนกรีตแต่ละชั้น > 1/400 0.75 m.
- กรณี Load คอนกรีตลง Bucket จะต้อง Check Slump ปูนก่อนทุกคัน Slump 7.5 + 2.5 ซ.ม. Slump ไม่ได้ให้สั่ง
รถปูนกลับทันที ห้ามเติมน้ำ
- การสั่งปูนเพื่อมาเทเสาคอนกรีต ไม่ควรสั่งมากกว่า 2 คิว เพราะจะทำให้ปูนข้นโม่ไม่ได้ Slump ตามที่ต้องการ
- เมื่อเทคอนกรีตใกล้เคียงระดับที่ต้องการแล้ว ควรเทต่อด้วยการใช้ถังปูนรับปูนจาก Bucket ก่อนแทนการเท
Bucket ลงเสาโดยตรง เพื่อให้สามารถควบคุมระดับหัวเสาได้เพื่อไม่ต้องไปสกัดหัวเสาทีหลัง
3. ช่วงหลังเทคอนกรีต
- เช็คดิ่งเสาอีกครั้งทันทีหลังเทคอนกรีตเสร็จใหม่ ๆ ถ้า เสาล้ม > 1/400 ต้องรีบปรับดิ่งเสาใหม่ทันที
ขณะที่คอนกรีตยังไม่ Set ตัว
- ทำความสะอาดเหล็กเสริมเสาชั้นต่อไปทุกครั้งก่อนเสร็จงาน
หมายเหตุ 1. ถ้าเสาเป็นโพรง (Honey Comp) จนต้องตัดทิ้ง จะหักค่าใช้จ่ายจากผลงานผู้รับเหมา
2. ถ้าเทเสาสูงกว่าระดับที่ต้องการ ค่าแรง + ค่าเช่า Jackhammer จะหักค่าใช้จ่ายจากผลงาน
ผู้รับเหมา


การหล่อเสาสำเร็จรูป

30 มิถุนายน 2552

1 ต.ค. นี้เตรียมเปิดแอร์พอร์ตลิงค์ให้คนไทยลองใช้ฟรี

แอร์พอร์ตลิงค์คืบกว่า 98% คาดว่าจะเปิดบริการทัน 12 ส.ค.นี้ โดยให้รฟท.ตั้งบริษัทลูกขึ้นบริหาร นายโสภณ ซารัมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการทดสอบเดินรถไฟฟ้าเชื่อมสนามบินสุวรรณภูมิ (แอร์พอร์ต เรล ลิงค์) วันแรกว่า ขณะนี้โครงการแอร์พอร์ตลิงค์คืบหน้าไปแล้วกว่า 98% ทั้งโครงสร้างพื้นฐานและระบบการเดินรถ โดยคาดว่าสามารถเปิดให้บริการได้ทันในวันที่ 12 สิงหาคมนี้แน่นอน
โดยในวันนี้ (13 ก.พ.) ได้มีการทดสอบการเดินรถจากสถานีรามคำแหงถึงสถานีท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
สำหรับระบบเช็คอินกระเป๋าผู้โดยสารจะเช็คอินที่ซิตี้เช็กอิน เทอร์มินอล ที่สถานีมักกะสัน ซึ่งหากระบบเช็คอินยังไม่เรียบร้อยพร้อมกันจะให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดให้บริการเดินรถสำหรับผู้โดยสารไปก่อนจนกว่าระบบดังกล่าวจะเสร็จสมบูร์
อย่างไรก็ตาม ได้เร่งให้รฟท. จัดตั้งบริษัทลูกขึ้นมาบริหารการเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงค์ให้พร้อมและเปิดให้บริการได้ตามกำหนด
ด้านนายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการ รฟท. กล่าวว่า ขณะนี้รฟท. ได้เสนอแผนรายละเอียดและชื่อบริษัทลูก คือ บริษัท เดินรถร่วม รฟท.จำกัด โดยให้กระทรวงคมนาคมเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอการบรรจุวาระเข้าที่ประชุม รวมทั้งได้ประสานงานขอจดทะเบียนบริษัทกับกระทรวงพาณิชย์ไว้แล้ว
หากครม. เห็นชอบก็สามารถยื่นขอจดทะเบียนบริษัทได้ภายใน 15 วัน และระหว่างรอการจัดตั้งบริษัทลูก รฟท.ก็ได้เร่งจัดหาผู้บริหารบริษัทลูก ซึ่งจะใช้คนของ รฟท.บริหารชั่วคราวควบคู่ไปกับการหาบุคลากรด้านงานบริหารเข้ามาดำเนินงานจำนวน 51 คน และพนักงาน อีก 450 คน
โดยระหว่างนี้จะมีการเปิดอบรมพนักงานให้มีความพร้อมสำหรับการให้บริการซึ่งใช้เวลาประมาณ 3 เดือน
สำหรับอัตราค่าโดยสาร สายรถด่วนในบื้องต้นได้กำหนดไว้ที่ 150 บาทต่อคน ส่วนขบวนรถในเมืองที่จะจอดรับผู้โดยสารตามสถานี 6 แห่ง อัตราค่าโดยสาร 30-50 บาท แต่จะมีการพิจารณาอีกครั้ง

รถไฟฟ้ามหานคร


การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เดิมชื่อองค์การรถไฟฟ้ามหานคร เป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคม จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2535 มีภาระหน้าที่ในการจัดให้มี และให้บริการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และจังหวัดอื่นๆ รวมทั้งดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเพื่อประโยชน์แก่ รฟม. และประชาชนในการใช้บริการรถไฟฟ้า ตามพระราชบัญญัติการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2543
ขณะนี้ รฟม. ได้เปิดบริการเดินรถ เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2547 ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าใต้ดินสายแรกของประเทศไทย ระยะทาง 20 กม. ช่วงหัวลำโพง-ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์-บางซื่อ สำหรับในอนาคต รฟม. ได้รับมอบหมายให้ดำเนินงานโครงการส่วนต่อขยายและสายใหม่ เป็นระยะทาง 94 กม. ประกอบด้วย โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และช่วงหัวลำโพง-บางแค โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางกะปิ-บางบำหรุ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-ราษฎร์บูรณ ในกลางปี 2548 จะเริ่มก่อสร้าง โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่ - ราษฎร์บูรณะ ช่วงบางใหญ่ - บางซื่อ (พ.ศ. 2548-2551) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งรัดดำเนินงานโครงการตามนโยบายของรัฐบาล

โครงการรถไฟฟ้าสาย สีน้ำเงิน

ลักษณะโครงการ
โครงสร้าง
ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ มีระยะทาง 13 กม. เป็นเส้นทางยกระดับทั้งหมด แนวเส้นทางเริ่มต้นจากสถานีบางซื่อ ผ่านถนนประชาราษฎร์สาย 2 สีแยกบางโพ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ถนนจรัญสนิทวงศ์ สิ้นสุดที่สี่แยกถนนจรัญสนิทวงศ ์-ถนนเพชรเกษม

--------------------------------------------------------------------------------

สถานี เป็นสถานียกระดับ 10 สถานี ได้แก่ สถานีเตาปูน (เป็นสถานีร่วมกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ) สถานีบางโพ สถานีบางอ้อ สถานีบางพลัด สถานีสิริธร (เป็นสถานีร่วมกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางกะปิ-บางบำหรุ) สถานีบางยี่ขัน สถานีบางขุนนนท์ สถานีแยกไฟฉาย สถานีจรัญสนิทวงศ์ 13 สถานีท่าพระ (เป็นสถานีร่วมกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค)
--------------------------------------------------------------------------------
โครงสร้าง
ช่วงหัวลำโพ-บางแค มีระยะทาง 14 กม. แบ่งเป็นเส้นทางวิ่งใต้ดินในช่วงหัวลำโพง-ท่าพระ ระยะทาง 5 กิโลเมตร ผ่านถนน เจริญกรุง วังบูรพา ถนนสนามไชย พระบรมมหาราชวัง ลอดใต้แม่น้ำเจ้าพระยาที่ปากคลองตลาด คลองบางกอกใหญ่ ถนนอิสรภาพ แล้วเปลี่ยนเป็นเส้นทางยกระดับ ระยะทาง 9 กิโลเมตร เข้าสู่สี่แยกท่าพระ ถนนเพชรเกษม สิ้นสุดที่วงแหวนรอบนอก
--------------------------------------------------------------------------------
สถานี
สถานีจำนวน 11 สถานี เป็นสถานีใด้ดิน 4 สถานี ได้แก่ สถานีวัดมังกร สถานีวังบูรพา (เป็นสถานีใต้ดินร่วมกับรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-ราษฎร์บูรณะ) สถานีสนามไชย สถานีอิสรภาพ สถานียกระดับ 7 สถานี ได้แก่ สถานีท่าพระ (เป็นสถานีร่วมกับรถไฟฟ้า สายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-ท่าพระ) สถานีบางไผ่ สถานีบางหว้า สถานีเพชรเกษม 48 สถานีภาษีเจริญ สถานีบางแค สถานีหลักสอง
--------------------------------------------------------------------------------
ระบบรถ
ใช้ระบบรถไฟ้าขนาดใหญ่ (Heavy rail transit system) ที่มีความจุสูง สามารถขนส่งผู้โดยสารได้มากกว่า 50,000 คน ต่อชั่วโมงต่อทิศทาง เช่นเดียวกับรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล
--------------------------------------------------------------------------------
จำนวนผู้โดยสาร
ผลการวิเคราะห์คาดการณ์จำนวนผู้โดยสารในกรณีพื้นฐาน ซึ่งคิดค่าโดยสารในอัตราแรกเข้า 12 บาท และคิดค่าโดยสารเพิ่มขึ้นสถานีละ 2 บาท ไม่คิดค่าเปลี่ยนถ่ายระบบ และมีอัตราค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 50 บาท
--------------------------------------------------------------------------------
ผลตอบแทนด้านการเงินและเศรษฐกิจของโครงการ
เนื่องจากผลตอบแทนทางด้านการเงินของโครงการ (firr) อยู่ในเกณฑ์ต่ำ โดยโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ให้ผลตอบแทน -0.87 % และโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ให้ผลตอบแทน-2.41 % แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทั้งสองโครงการให้ผลตอบแทนด้านเศรษฐกิจในรูปแบบของการประหยัดเวลาในการเดินทางและ การประหยัดค่าใช้จ่ายการใช้

โครงการรถไฟฟ้าสาย สีม่วง
ลักษณะโครงการ
โครงสร้าง
ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ มีระยะทางประมาณ 23 กม. เป็นทางยกระดับทั้งหมด แนวเส้นทางเริ่มจากบริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน บางซื่อ ต่อจากโครงสร้างอุโมงค์ที่ปัจจุบัน สิ้นสุดอยู่บริเวณระดับดินหน้าบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) เป็นโครงกสร้าง ทางวิ่งยกระดับไปทางสะพานสูงบางซื่อ วิ่งข้ามคลองเปรมประชากร ผ่านถนนประชาราษฎร์สาย 2 สามแยกเตาปูน ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี ถนนติวานนท์ ถนนรัตนาธิเบศร์ ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา แยกท่าอิฐ แยกบางพลู ถนนวงแหวนรอบนอก สิ้นสุดที่คลองบางไผ่ (มีศูนยซ่อมบำรุงและอาคารจอดรถ)
--------------------------------------------------------------------------------
สถานี
เป็นสถานียกระดับ 16 สถานี ได้แก่ สถานีเตาปูน สถานีบางซ่อน สถานีวงศ์สว่าง สถานีแยกติวานนท์สถานี กระทรวงสาธารณสุข สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี สถานีศรีพรสวรรค์ สถานีแยกนนทบุรี 1 สถานีสะพานพระนั่งเกล้า สถานีไทรม้า สถานีท่าอิฐ สถานีบางรักใหญ่ สถานีบางพลู สถานีสามแยกบางใหญ่ สถานีตลาดบางใหญ่ สถานีคลองบางไผ่
ระบบรถ
ใช้ระบบรถไฟ้าขนาดใหญ่ (Heavy rail transit system) ที่มีความจุสูง สามารถขนส่งผู้โดยสารได้มากกว่า 50,000 คน ต่อชั่วโมงต่อทิศทาง เช่นเดียวกับรถไฟฟ้ามหานคร สายเฉลิมรัชมงคล
--------------------------------------------------------------------------------
จำนวนผู้โดยสาร
ผลการวิเคราะห์คาดการณ์จำนวนผู้โดยสารในกรณีพื้นฐาน ซึ่งคิดค่าโดยสารในอัตราแรกเข้า 12 บาท และคิดค่าโดยสารเพิ่มขึ้นสถานีละ 2 บาท ไม่คิดค่าเปลี่ยนถ่ายระบบ และมีอัตราค่าโดยสารสูงสุดไม่เกิน 50 บาท
--------------------------------------------------------------------------------
ผลตอบแทนด้านการเงินและเศรษฐกิจของโครงการ
เนื่องจากผลตอบแทนทางด้านการเงินของโครงการ (firr) อยู่ในเกณฑ์ต่ำ โดยโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ ให้ผลตอบแทน -0.87 % และโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางแค และช่วงบางซื่อ-ท่าพระ ให้ผลตอบแทน-2.41 % แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทั้งสองโครงการให้ผลตอบแทนด้านเศรษฐกิจในรูปแบบของการประหยัดเวลาในการเดินทางและ การประหยัดค่าใช้จ่ายการใช้รถยนต์สูง
--------------------------------------------------------------------------------

ประมวลภาพการตัดพื้น Postension slab


รถไฟฟ้า BTS


กรุงเทพมหานครได้ทดลองวิ่งรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีลมจากสะพานตากสิน - แยกตากสิน ระยะทาง 2.2 กม.

ซึ่ง ผู้โดยสารสามารถเดินทางฟรี 3 สถานี ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค. - 12 ส.ค. 52
S6 สถานีสะพานตากสิน
S7 สถานีกรุงธนบุรี
S8 สถานีวงเวียนใหญ่
โดยใช้ตั๋วโดยสารเที่ยวเดียวที่กดออกจากเครื่องจำหน่ายตั๋วโดยสารอัตโนมัติ หรือใช้บัตรโดยสารประเภทเติมเงิน (SKY SmartPass)
สำหรับผู้ที่ใช้บัตรโดยสารประเภท 30 วัน ทุกประเภท ให้กดตั๋วโดยสารเที่ยวเดียวจากเครื่องจำหน่ายตั๋วโดยสารอัตโนมัติ เพื่อเดินทางฟรีเท่านั้น

16 มิถุนายน 2552

ข่าวเด่นประจำสัปดาห์ที่ 2009-06-15

เหล็กเส้นเสียบสาวคนงานก่อสร้างชาวลาวหวิดดับ

ศูนย์ข่าวศรีราชา - เกิดอุบัติเหตุรอกส่งของหลุดร่วงกระแทกเหล็กเส้นที่พื้น ดีดปลายอีกด้านงัดขึ้นเสียบทะลุแขนคนงานก่อสร้างสาวชาวลาว เกือบโดนหัวใจ อาการสาหัส

วันนี้ (15 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างประทีปธรรมสถานศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งว่ามีคนถูกเหล็กเสียบที่ร่างกายได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ซึ่งเหตุเกิดบริเวณสถานที่ก่อสร้าง มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตสิรินธร ราชวิทยาลัย ในพระราชูปถัมภ์ (วัดศรีมหาราชา) ถ.สุรศักดิ์สงวน ต.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จากนั้นจึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบ น.ส.วรรณา สุทธิ อายุ 21 ปี ชาวลาว ซึ่งเป็นคนงานก่อสร้างได้ถูกเหล็กเส้น ขนาด 2 หุน เกือบ 10 เมตร เสียบที่ต้นแขนด้านซ้ายทะลุเข้าลำตัวได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส

จากนั้นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฯ ได้ทำการช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นผู้บาดเจ็บก่อน ที่จะใช้กรรไกรตัดเหล็กที่เสียบแขนและชายโครงให้สั้นลง ก่อนประสานไปยังเจ้าหน้าที่พยาบาลโรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา ให้มาทำการเคลื่อนย้ายผู้ได้รับบาดเจ็บ นำไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ทำการช่วยเหลือและทำการผ่าตัดเป็นการด่วน

จากการสอบถามนายสมบัติ เรียงเงิน ผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า ขณะที่ตนได้ชักลอกนำหินขึ้นไปชั้นบนของอาคาร โดยมี น.ส.วรรณาผู้บาดเจ็บทำหน้าที่คอยตักหินทรายใส่กระบะอยู่ด้านล่าง จังหวะที่กำลังชักลอกหิยขึ้นไปถึงชั้นที่ 2 สายสลิงที่ชักลอกได้เกิดขาด จึงทำให้กระบะที่บรรจุหินล่วงลงมากระแทรกกับเหล็กเส้นที่กองอยู่กับพื้น กระเด็นมาเสียบร่างนางสาววรรณาได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว
From ASTVผู้จัดการออนไลน์

09-06-14 สั่งปิดไซด์ก่อสร้างหลังเครนใหญ่ทับคนงานดับ

สั่งปิดไซด์ก่อสร้างหลังเครนใหญ่ทับคนงานดับ

กรณีเครนก่อสร้างขนาดใหญ่ล้มทับคนงานเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ บริเวณไซต์งานก่อสร้างภายในวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร ถนนศรีอยุธยา แขวงวชิระ เขตดุสิต กทม. เหตุ เมื่อ 13 มิถุนายน ที่ผ่านมา ความคืบหน้าล่าสุด พ.ต.อ.สรเสริญ ใช้สถิต ผกก.สน.สามเสน เปิดเผยว่า ทางสำนักงานเขตดุสิตและสน.สามเสน ได้สั่งปิดการก่อสร้างบริเวณโครงการที่เกิดเหตุแล้ว และพรุ่งนี้(15 มิ.ย.)จะให้ทางพนักงานสอบสวนประสานงาน ขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ จากสมาคมวิศวะกรรมฯแห่งประเทศไทย เพื่อขอข้อมูลมาตรฐานความปลอดภัย และวิธีการขนย้ายและดำเนินการก่อสร้าง
"หลังจากนั้นจะได้นำข้อมูลที่ได้มาตรวจสอบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวใครเป็นผู้คนผิด เบื้องต้นจะแจ้งข้อหากระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย กับวิศวกรคุมงาน และอาจพิจารณายึดใบอนุญาตประกอบวิชาชีพด้วย ส่วนคนบังคับเครนยกเหล็ก หรือคนงานผูกสายสลิงกับท่อเหล็กต้องสอบปากคำว่าใครเป็นคนกระทำผิดด้วย ขณะนี้ได้สอบพยานซึ่งเป็นคนงานในที่เกิดเหตุไปแล้ว 5-6 ปาก ขณะที่คนเจ็บ ขาหักยังคงพักรักษาตัวที่ วชิระพยาบาล" ผกก.สน.สามเสน กล่าว

From เนชั่นทันข่าว
http://mybuilt.blogspot.com

09-06-13 เครนสร้างตึกเทคโนฯพระนครถล่มทับคนงานดับ

เครนสร้างตึกเทคโนฯพระนครถล่มทับคนงานดับ 1

เครนก่อสร้างอาคาร ม.เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร หักทับช่างไฟเสียชีวิต 1 คน ขณะเดินสายไฟ ส่วนคนขับรถเครนได้รับบาดเจ็บ ตร.สน.สามเสนเตรียมเรียกวิศวกรและสถาปนิกดำเนินคดีร่วมกันประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

วันนี้ (13 มิ.ย.)เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.ร.ต.ท.สมชาย เชาวนะ ร้อยเวร สน.สามเสน รับแจ้งเหตุเครนก่อสร้างถล่มบริเวณวัดเทวราชกุญชร วรวิหาร จุดรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบเครนก่อสร้างขนาดใหญ่หล่นพาดทับรถบรรทุก เจดีย์ หลังคาและทางเดินพระอุโบสถได้รับความเสียหายแตกหักเศษอิฐกระจายเกลื่อนกลาด พบผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายตะวัน พลเยี่ยม เจ้าหน้าที่ไฟฟ้า ขณะเกิดเหตุกำลังเดินสายไฟภายในอาคาร และผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือนายสุริยะ แสนสุข คนขับรถเครน เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนบริเวณที่เกิดเหตุได้นำเชือกมากั้นไม่ให้บุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปภายในเนื่องจากอาจได้รับอันตราย

พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1เปิดเผยภายหลังเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุว่า บริเวณดังกล่าวบริษัทสแตนดาร์ดเพอร์ฟอร์แม้นซ์ จำกัด เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ ม.เทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ขณะเกิดเหตุคนงานก่อสร้างได้เกี่ยวเหล็กกับรถเครนเพื่อทำการก่อสร้าง ระหว่างที่เครนกำลังยกเหล็กขึ้นไป ตัวเกี่ยวครูดทำให้เหล็กเคลื่อน เครนแกว่งเสียหลักจนเหล็กหล่นลงมาจนเครนเสียหลักหักลงมาทับทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บอีก 1 คน รถยนต์เสียหายทั้งสิ้น 3 คัน พระอุโบสถและเจดีย์เสียหาย เบื้องต้นได้นำตัวนายอภิชัย ลาภทอง ชาวยโสธร คนขับรถบรรทุกที่เครนหล่นลงมาทับ และนายทองสุข เทพาขัน คนงานที่ทำหน้าที่เกี่ยวเหล็กกับเครน ไปสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมกันนี้จะได้เรียกตัวนายปฐมพงศ์ คุ้มผล วิศวกรโยธา และ น.ส.รัฏฐกรณ์ ภักดี สถาปนิก มาสอบปากคำและดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายต่อไป

สำหรับโครงการก่อสร้างดังกล่าวมีนายสังคม นำสุข เป็นผู้จัดการโครงการ น.ส.ศรีสุดา สานิ เป็นเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย และนายธวัชชัย นวเลิศปัญญา เป็นหนัวหน้าผู้คุมงาน กำหนดเริ่มสัญญาก่อสร้างเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.2551 และสิ้นสุดโครงการในวันที่ 3 มิ.ย. 2553 งบประมาณก่อสร้างทั้งสิ้น 146,300,000 บาท



โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ASTVผู้จัดการ
http://mybuilt.blogspot.com

09-06-10 ก.ค.นี้ เริ่มเจาะอุโมงค์ราชพฤกษ์-นครอินทร์

คาด ก.ค.นี้ เริ่มเจาะอุโมงค์ราชพฤกษ์-นครอินทร์

ทางหลวงชนบทเผย ก.ค.เริ่มก่อสร้างอุโมงค์ ราชพฤกษ์-นครอินทร์ได้ ช่วยลดปัญหาจราจรติดขัด ก่อสร้าง 3 ปี พร้อมเตรียมต่อขยายโครงข่ายทาง รองรับการใช้งานสนามบินสุวรรณภูมิ

นายวิชาญ คุณากูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมทางหลวงชนบท (ทช.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทช.อยู่ระหว่างการประกวดราคาคัดเลือกผู้รับเหมาก่อสร้างอุโมงค์ลอดบริเวณวงเวียนถนนราชพฤกษ์-ถนนนครอินทร์ และทางคู่ขนานถนนราชพฤกษ์ ช่วง กม.15+660 ถึง 17+800 สะพานคู่ขนานข้ามคลองบางกอกน้อย จังหวัดนนทบุรี ซึ่งคาดว่าจะลงนามสัญญาและเริ่มงานก่อสร้างได้ในเดือนก.ค. 2552 โดยใช้เวลาในการก่อสร้าง 3 ปี

ทั้งนี้โครงการดังกล่าวจะแก้ปัญหาจราจรบริเวณ วงเวียนจุดตัดถนนราชพฤกษ์-ถนนนครอินทร์โดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน ซึ่งมักจะเกิดอุบัติเหตุในบริเวณดังกล่าวค่อนข้างบ่อย ซึ่งโครงการจะทำให้ขีดความสามารถในการรองรับการจราจรเพิ่มมากขึ้น และปรับปรุงประสิทธิภาพ ถนนราชพฤกษ์-ถนนนครอินทร์ ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยรูปแบบจะเป็นการก่อสร้างอุโมงค์ขนาด 6 ช่องจราจร ความยาวประมาณ 650 เมตร บนถนนราชพฤกษ์ลอดใต้วงเวียนจุดตัดถนนราชพฤกษ์-ถนนนครอินทร์ เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จ ในบริเวณทางแยกดังกล่าว จะมีลักษณะเป็นอุโมงค์ทางลอดในการเดินทางแนวเหนือ-ใต้ สะพานลอยข้ามแยกในการเดินทางแนวตะวันออก-ตะวันตกโดยวงเวียนยังคงสามารถใช้งานได้สำหรับรถที่จะเลี้ยวซ้ายและขวาในการเดินทาง

นอกจากนี้ ทช.ยังได้มอบหมายให้สำนักก่อสร้างทาง เร่งดำเนินการศึกษาออกแบบส่วนต่อขยายถนนสายแยก ทล.34 (กม.ที่ 26) เชื่อมกับทางหลวงชนบทสาย ฉช. 3001 พร้อมทางต่างระดับ เพื่อรองรับปริมาณการจราจรบริเวณโดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิ และรองรับการเจริญเติบโตในพื้นที่ และพัฒนาโครงข่ายการคมนาคมให้สมบูรณ์มากขึ้น ตามนโยบายของนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

อย่างไรก็ตามการต่อขยายถนนสายแยกทางหลวงหมายเลข 34 (กม.ที่ 26) ถึงทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 โดยต่อขยายจาก กม.8+900 ข้ามทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ไปเชื่อมกับทางหลวงชนบทสาย ฉช.3001 (ถนนหลวงแพ่ง หรือ ถนนเทพราช-ลาดกระบัง) โดยมีเขตทางกว้างประมาณ 30 เมตร จำนวน 4 ช่องจราจร 2 ทิศทาง มีเกาะกลางแบ่งแยกทิศทางการจราจร ซึ่งเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยในการเดินทาง ลดอุบัติเหตุทางด้านการจราจร รวมถึงลดเวลา ค่าใช้จ่ายในการเดินทางและการขนส่งสินค้าให้น้อยลงด้วย นอกจากนี้กรมยังมีแผนที่จะปรับปรุงถนนช่วงระหว่าง กม.5+000 ถึง กม.8+900 ซึ่งมีปัญหาสภาพดินอ่อนใต้คันทางในบางบริเวณ ให้มีความมั่นคงแข็งแรงมากขึ้นเพื่อเพิ่มอายุการใช้งานของถนนและสร้างความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนน


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://mybuilt.blogspot.com

09-06-08 รถไฟฟ้าสายสีม่วง สัญญา 1 ฉลุย


รถไฟฟ้าสายสีม่วง สัญญา 1 ฉลุย ผู้ว่าฯ รฟม.คนใหม่ เริ่มงาน 1 ก.ค.นี้

บอร์ด รฟม.เห็นชอบผลเจรจาลดค่าก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางใหญ่-บางซื่อ สัญญาที่ 1 เหลือ 14,842 ล้านบาท เปิดซองราคาสัญญาที่ 2 มิ.ย.นี้ “บิ๊กทางหลวง” การันตีคุณภาพคับแก้ว พร้อมเห็นชอบค่าตอบแทน “ชูเกียรติ โพธยานุวัตร์” ผู้ว่าการ รฟม.คนใหม่ เดือนละ 3.4 แสนบาท คาดเริ่มงานได้ 1 ก.ค.นี้

มีรายงานข่าวว่า คณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เห็นชอบผลการเจรจากับกลุ่ม CKTC Joint Venture ที่ได้มีการต่อรองราคาค่าก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วงสัญญา 1 ครั้งล่าสุดลงมาเหลือ 14,842 ล้านบาท และคาดว่า จะมีการเปิดซองราคาสัญญา 2 ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2552 นี้

นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อธิบดีกรมทางหลวง ในฐานะประธานคณะกรรมการ รฟม.เปิดเผยภายหลังการประชุม โดยระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ รฟม.เห็นชอบให้ลดราคาค่าก่อสร้างโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง สัญญาที่ 1 งานก่อสร้างทางยกระดับสายตะวันออก ช่วงจากเตาปูน-พระนั่งเกล้า ตามที่คณะอนุกรรมการพิจารณาราคาก่อสร้างสัญญาที่ 1 ได้ต่อรองกับกลุ่ม CKTC Joint Venture ประกอบด้วย บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK และบริษัท โตคิว คอนสตรัคชั่น จำกัด ซึ่งเป็นผู้ชนะการประมูลในโครงการดังกล่าว มาเจรจาเพื่อต่อรองลดค่าก่อสร้าง ซึ่งสรุปว่า กลุ่ม CKTC ยอมลดเหลือ 14,842 ล้านบาท จากเดิม 14,965 ล้านบาท โดยเป็นราคาค่าก่อสร้างที่แท้จริง 14,242 ล้านบาท และสำรอง 600 ล้านบาท ทั้งนี้ ยืนยันว่าการลดราคาค่าก่อสร้างคุณภาพงานก่อสร้างยังเหมือนเดิมโดยไม่มีการปรับลดปริมาณงานลง

“วงเงินที่ต่อรองได้ดังกล่าว แยกเป็นค่าก่อสร้าง หรืองานโยธา จำนวน 14,242 ล้านบาท และค่าเผื่อเหลือเผื่อขาด 600 ล้านบาท โดยส่วนค่าเผื่อเหลือเผื่อขาดจะจ่ายตามจริง ซึ่งจะจ่ายขั้นต่ำ 50 ล้านบาท ทั้งนี้จะมีการรายงานให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบต่อไป”

ก่อนหน้านี้ รฟม.ได้มีการเจรจาต่อรองค่าก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง สัญญาที่ 1 กับกลุ่ม CKTC Joint Venture ลงมาที่ 14,965 ล้านบาท ดังนั้น ผลการเจรจาต่อรองราคาครั้งล่าสุดจึงปรับลดลงมาประมาณ 123 ล้านบาท สำหรับขั้นตอนต่อไป รฟม.จะเสนอขอเงินกู้จากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JICA) ก่อนเสนอ ครม.พิจาณาอนุมัติและเซ็นสัญญาก่อสร้างได้ทันที

นอกจากนี้ คณะกรรมการ รฟม.ยังเห็นชอบค่าตอบแทนของ นายชูเกียรติ โพธยานุวัตร์ รองผู้ว่าการ รฟม.ที่ได้รับการสรรหาเป็นผู้ว่าการ รฟม.คนใหม่ แทน นายประภัสร์ จงสงวน เป็นจำนวนเงิน 340,000 บาทต่อเดือน ซึ่งต่ำกว่าวงเงินว่าจ้าง นายประภัสร์ อดีตผู้ว่าการ รฟม. เนื่องจากในแผนการทำงานโดยเฉพาะโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้านั้น ผู้ว่าการคนใหม่ไม่ต้องรับผิดชอบในการเจรจาต่อรองเรื่องสัญญาเงินกู้ จากนั้นจะเสนอสำนักงานคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เห็นชอบ ก่อนเสนอต่อที่ประชุม ครม.อนุมัติ ซึ่งคาดว่า นายชูเกียรติ จะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ได้ประมาณวันที่ 1 กรกฎาคม 2552 นี้ เป็นต้นไป


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://mybuilt.blogspot.com/