STRESSING
    1. อุปกรณ์การ STRESSING
1.1    เครื่องมือและอุปกรณ์การดึงลวดอัดแรง
 -     Hydraulic Pump
 -    Hydraulic Jack
 -    CCL Mastermatc, Proving Ring
 หมายเหตุ     การดึงลวดจะกระทำเมื่อกำลังอัดประลัยคอนกรีตรูปทรงกระบอกไม่น้อยกว่า 240 กก. / ตร.ซม.( 75 % Strength design)
      และวัดค่า Elongation
    2. การ  STRESSING
2.1  หลังจากการเทคอนกรีตพื้นแต่ละ Strip 2.5 - 3.0 วัน ( 60 - 72 ชม. ) ให้ทำการดึงลวดอัดแรงในทิศทางตามยาวของ
    จำนวนครึ่งหนึ่งของลวดทั้งหมด ( เส้นเว้นเส้น ) ด้วยแรง 10 ตันต่อเส้น ( กรณีสมอยึดแบบ 3 เส้น ให้ดึงลวดแต่ละกลุ่ม
     เพียงเส้นเดียวด้วยแรง 15 ตัน ) ก่อนดึงลวดต้องพ่นสี Mark ปลายลวดเพื่อเตรียมดำเนินการวัด Elongation ตามปกติ
      แต่ยังไม่ต้องวัด Elongation ในขณะนี้
2.2  กรณีที่สมอยึดตัวสุดท้ายอยู่ห่างจากขอบ Concreting Joint น้อยกว่า 0.40 เมตร ยังไม่ต้องดึงลวดที่สมอยึดตัวนั้น แต่
       ต้องดึงพร้อมลวดใน Strip ถัดไป
2.3  กรณีที่ดึงลวดตามข้อ 2.1 แล้วเกิดการแตกร้าว หรือรอยร้าวที่คอนกรีต บริเวณหัวสมอยึดให้ลดแรงดึงจาก 10 ตัน
       เหลือ 8 ตัน
2.4  เมื่อเทคอนกรีตครบทุก Strip  แล้ว 2.5 - 3.0 วัน ( 60 - 72 ชม.) แต่กำลังอัดของคอนกรีตยังต่ำกว่า 240 ksc. ให้ทำการ
      ดึงลวดอัดแรงในทิศทางตามขวางของ Strip จำนวนครึ่งหนึ่งของลวดอัดแรงทั้งหมด (เส้นเว้นเส้น )ด้วยแรง 10 ตัน
      ต่อเส้น ( กรณีสมอยึดแบบ 3 เส้น ให้ดึงลวดแต่ละกลุ่ม เพียงเส้นเดียวด้วยแรง 15 ตัน )
2.5  เมื่อคอนกรีตทั้งผืนมีกำลังอัดได้ 240 ksc. ให้ทำการดึงลวดตามขั้นตอนปกติโดยเริ่มดึงจากลวดเส้นที่ยังไม่ได้ดึงก่อน
       และดึงลวดที่เคยดึงด้วยแรง 10 ตัน เพิ่มเป็น 14.07 ตัน ( กรณีสมอยึด 3 เส้นให้ดึงลวดซ้ำด้วยแรง 15 ตัน ) ทั้งนี้ให้
       สังเกตว่า Elongation ของลวดเส้นหลัง ควรเท่ากันหรือใกล้เคียงกับลวดเส้นก่อน หาก Elongation แตกต่างกันมาก
       หรือมีค่าต่ำกว่า 95% ของค่าที่ออกแบบไว้ให้เพิ่มแรงดึงเป็น 15 ตัน
2.6  หลังจากดึงลวดเสร็จเรียบร้อย จะทำการวัดระยะยืดจริง โดยวัดระยะจากกิ๊ฟ ถึงตำแหน่งพ่นสีที่ทำไว้
       เพื่อนำค่าระยะยืดจริงของลวดเปรียบเทียบกับค่า Elongation ที่ออกแบบไว้
2.7  กรณีที่วัดค่า Elongation จากการดึงลวด ได้ค่าไม่ตรงตามข้อกำหนด จะต้องทำการดึงซ่อม หรือหาทางแก้ไข
       เป็นกรณีไป
      3.    การควบคุมแรงดึงในเส้นลวด
3.1  ควบคุมแรงดึงจาก Pressure - Gage ที่เครื่อง Hydraulic Pump
3.2  เปรียบเทียบค่าระยะยืด จริงของลวดกับค่า Elongation ที่ได้ออกแบบไว้โดยค่าที่จะแตกต่างกันไม่เกิน 5%
       (ตามค่ากำหนด)
     4.    กรณีที่ค่าระยะยืดจริงของลวดกับ Elongation ที่ออกแบบไว้แตกต่างกันเกิน 5% ให้ทำการตรวจสอบและแก้ไข
 เป็นกรณีไป
      
4.1  กรณี - 5% (ระยะยืดของลวดน้อยกว่ารายการคำนวณ Elongation)
  -    ให้เพิ่มแรงดึงแต่ต้องไม่เกิน 80% Fpu.( 15 ตัน) แล้ววัดระยะยืดของลวดที่เพิ่มขึ้น
  -    กรณีที่เพิ่มแรงดึงถึง 80% Fpu. แล้ว ระยะยืดของลวดเกิน  5% ให้ทำการคำนวณตรวจสอบโครงสร้าง
       เฉพาะส่วนนั้น ๆ โดยใช้ค่าแรงดึงลวดที่เกิดขึ้นจริง
4.2  กรณี + 5% (ระยะยืดจริงมากกว่ารายการคำนวณ Elongation)
  -    ตรวจสอบแรงดึง โดย Re-Stressing ด้วยแรง 75% Fpu. (14 ตัน) สังเกตระยะยืดเพิ่มแรงช้า ๆ
       สังเกตระยะยืดจนลวดขยับตัวอ่าน Pressure Gage จะได้ค่าแรงในลวดเส้น นั้น ๆ ตรวจสอบว่าเกิน
       80% Fpu. หรือไม่ ถ้าไม่เกินถือว่าผ่าน กรณี 50% Fpu. ให้รายงานผู้ออกแบบเพื่อหาทางแก้ไขต่อไป
     5.    การอัดน้ำปูน (Grouting Cement)
5.1  เครื่องมือและอุปกรณ์การอัดน้ำปูน
 -    เครื่องมืออัดน้ำปูน Mono Pump
 -    เครื่องผสมปูน (Mixer Tank)
5.2  วัสดุ Grouting Cement
        วัสดุ Grouting Cement เป็นส่วนผสมของปอร์ดแลนด์ซีเมนต์ชนิดที่ 1 ผสมกับน้ำ และ Admixture
        โดยมีอัตราส่วนของน้ำ ต่อ ซีเมนต์ (W/C RATIO) ไม่เกิน 0.45 โดยน้ำหนักดังอัตราส่วนต่อไปนี้
 -      ปอร์ตแลนด์ซีเมนต์ชนิดที่ 1 =50 kg.
 -      ADMIXTURE (Aluminum) ส่วนผสมตามสูตรของ Admixture แต่ละชนิด
 -      น้ำ = 20 - 22 ลิตร
        ก่อนจะนำส่วนผสมไปอัดน้ำปูน จะต้องทำการทดสอบการไหล (Test Flow Rate) ของส่วนผสมก่อน
        โดยให้ได้อัตราการไหลประมาณ 11 วินาที โดยใช้ปริมาตร 1.7 ลิตร และจะต้องทำการเก็บลูกปูน
        ไว้ทดสอบกำลังอัด (151 ksc อายุ 7 วัน),(280 ksc อายุ 28 วัน)
หมายเหตุ        ปริมาตร 1.7 ลิตร ใช้เวลาประมาณ 7 - 8 วินาที
5.3  ขั้นตอนการอัดน้ำปูน
  -    ก่อนการอัดน้ำปูนจะต้องทำการอุดปูนทรายหุ้มสมอยึด เพื่อป้องกันการรั่วของน้ำปูน Grout บริเวณสมอยึด
หมายเหตุ       ทำการตัดปลายลวดก่อนทำการอุดปูนทรายหุ้มสมอยึด
  -     ทำความสะอาดท่อร้อยลวดอัดแรง โดยการอัดน้ำหรือเป่าลมเข้าไปในท่อเพื่อไล่สิ่งสกปรกที่อยู่ภายในท่อออก
        และยังเป็นการตรวจสอบว่าท่อตันหรือไม่ ถ้าตันให้ทำการเจาะรูใหม่ เพื่อให้สามารถอัดน้ำปูนได้เต็ม
  -    ทำการอัดน้ำปูนเข้าไปในท่อร้อยลวดอัดแรง ผ่านท่อ Air vent ด้านหนึ่งให้น้ำปูนไหลผ่านท่อ Air vent ที่ปลาย
       สมอยึดอีกด้านหนึ่ง แล้วจึงทำการปิด Air vent ที่ปลายสมอยึดด้านท้าย คงค้างแรงดันอย่างน้อย 50 PSI หรือ
       3.5 ksc. เป็นเวลา 5 วินาที  ก่อนทำการปิดท่อ  Air vent (โดยการพับท่อ Air vent ที่อัดน้ำปูนไว้ เพื่อรักษาความดัน
        ภายในท่อไว้)
  -    ภายหลังจากอัดน้ำปูนทิ้งไว้อย่างน้อย 24 ชั่วโมง จึงค่อยตัดท่อ Air vent โดยสกัดเข้าไปในเนื้อคอนกรีต
       ประมาณ 2 - 3 ซม. แล้วจึงทำการ Grout ปูนแต่งผิวคอนกรีต
1 ความคิดเห็น:
ขอบคุณครับสำหรับบทความ
แสดงความคิดเห็น